KNOW HOW
  • Witty Hacks

รวม 7 วิธีไล่นกพิราบแบบง่ายๆ ได้ผลเร็ว ทำได้ด้วยตนเอง

บทความที่จะมาแนะนำวิธีไล่นกพิราบด้วยวิธีการต่างๆ ที่ทุกคนก็สามารถนำไปทำได้อย่างมืออาชีพ

AP THAILAND

AP THAILAND

วิธีไล่นกพิราบแบบง่ายๆ

ในการใช้ชีวิตและอาศัยอยู่ในบ้านอย่างมีความสุขนั้น ยังมีอีกหลายบ้านไม่น้อยที่ประสบปัญหาเรื่องนกพิราบที่มาสร้างความกวนใจให้กับบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสียง ทำรัง หรือปล่อยสิ่งปฏิกูลที่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมา ทำให้นอกจากตัวบ้านจะมีกลิ่นเหม็นแล้ว ยังส่งผลต่อสุขอนามัยของคนในบ้านอีกด้วย

 

ดังนั้น บทความนี้จึงจะมาแนะนำ 7 วิธีไล่นกพิราบอย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันปัญหาด้านสุขอนามัย อีกทั้งยังรักษาความสะอาดของตัวบ้านได้อีกด้วย มาดูกันเลยว่ามีวิธีใดบ้าง

 

7 วิธีไล่นกพิราบแบบง่ายๆ

 

7 วิธีไล่นกพิราบแบบง่ายๆ แต่ได้ผลจริง

เมื่อทำความเข้าใจกับอันตรายที่แฝงมากับโรคภัยต่างๆ แล้ว เพราะฉะนั้นการป้องกันและดูแลตนเองให้ดีจึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งการใช้วิธีไล่นกพิราบนั้น เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคและช่วยกำจัดปัญหารบกวนใจได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการกำจัดรังนกพิราบ การแขวนกระดิ่ง การติดตาข่ายกันนกพิราบ และวิธีไล่นกพิราบในแบบอื่นๆ ที่สามารถทำได้ด้วยตนเอง

 

กำจัดรังนกพิราบ

 

1. กำจัดรังนกพิราบ

การกำจัดรังนกพิราบเป็นวิธีไล่นกพิราบที่ง่ายและมีประสิทธิภาพ สามารถเห็นผลได้ใน 1-2 วันเพราะนกพิราบจะต้องอยู่อาศัยในรังและรอฟักไข่ ดังนั้น หากคุณสามารถนำรังออกจากบ้านได้ก่อน จะทำให้นกพิราบไม่สามารถอยู่อาศัยต่อได้ ทั้งนี้ ในการกำจัดรังนกพิราบนั้น จะต้องแต่งตัวให้มิดชิด สวมหน้ากากอนามัยเพื่อหลีกเลี่ยงและป้องกันการติดเชื้อไวรัสที่มากับนกพิราบ

 

แขวนกระดิ่งหรือโมบาย

 

2. แขวนกระดิ่ง หรือโมบาย

อีกหนึ่งวิธีไล่นกพิราบที่ชอบมาเกาะตามระเบียงหรือหลังคาบ้านด้วยการแขวนกระดิ่งหรือโมบาย เมื่อมีลมพัดหรือนกมาเกาะจะทำให้เกิดเสียงกระทบกันเกิดขึ้น จะทำให้นกพิราบตกใจและบินหนีออกจากบ้านไปในทันที

 

ติดตาข่ายกันนก

 

3. ติดตาข่ายกันนก

ตาข่ายกันนกเป็นอีกหนึ่งไอเทมสำหรับวิธีไล่นกพิราบที่ทุกบ้านควรมีติดไว้อย่างยิ่ง เพียงนำมาขึงไว้บริเวณช่องว่างระหว่างเพดานและระเบียงหรือจุดที่ต้องการ ก็สามารถป้องกันนกพิราบเข้ามาในพื้นที่ของบ้านได้ในทันที นอกจากนั้น ยังติดตั้งง่าย ใช้งานสะดวก สามารถป้องกันปัญหามูลสัตว์และสิ่งของชิ้นเล็กอีกด้วย

 

รั้วหนามกันนกแบบทำเอง

 

4. รั้วหนามกันนกแบบทำเอง

หมดเรื่องกวนใจกับวิธีไล่นกพิราบแบบง่ายๆ ด้วยรั้วหนามกันนกแบบทำเองจากลวดเส้นเล็กที่นำมาปักลงบนแผ่นโฟมหรือฟิวเจอร์บอร์ดให้สูงสูงพอประมาณ จากนั้นนำมาวางไว้บนหลังคาก็เป็นอันเสร็จสิ้น แต่ทั้งนี้อาจต้องระวังเรื่องลวดขึ้นสนิม จึงแนะนำให้ทำการเปลี่ยนทุกครั้งที่เห็นรอยสนิม

5. ทาจาระบีบริเวณที่นกเกาะ

จาระบีเป็นผลิตภัณฑ์หล่อลื่นที่ใช้สำหรับทาอุปกรณ์หรือเครื่องมือต่างๆ ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้การวิธีไล่นกพิราบได้เช่นกัน เนื่องจากนกพิราบจะไม่ชอบกลิ่นของจาระบี ดังนั้น ให้ทาจาระบีไว้บริเวณที่นกพิราบชอบมาอยู่ รับรองเห็นผลได้ทันที

6. ฉีดสเปรย์น้ำส้มสายชู

น้ำส้มสายชูเป็นอีกหนึ่งเครื่องปรุงที่ทุกบ้านมีติดครัว ซึ่งสามารถนำมาทำเป็นสเปรย์ไล่นกพิราบด้วยการนำมาผสมกับน้ำเปล่าในอัตราส่วนหนึ่งต่อหนึ่ง จากนั้นนำมาพ่นหรือฉีดใส่บริเวณที่นกพิราบอาศัยอยู่  ใช้เวลาไม่นาน รับรองว่านกพิราบจะต้องหนีไปอย่างแน่นอน

 

แขวนสัตว์ปลอม

 

7. แขวนสัตว์ปลอม

หลายคนอาจคิดไม่ถึง แต่การแขวนสัตว์ปลอมเป็นวิธีไล่นกพิราบที่สามารถเห็นผลได้ทันทีและใช้ได้จริง เช่นงูปลอม หรือนกปลอม โดยการตั้งไว้ในจุดที่นกพิราบชอบมาเกาะ  เพียงเท่านี้นกพิราบก็ไม่กล้าเข้ามาในบ้านแล้ว

 

4 เหตุผลที่ควรไล่นกพิราบให้ไกลบ้าน

เชื่อว่าหลายคนคงทราบกันดีว่านอกจากนกพิราบจะสร้างความสกปรกให้กับตัวบ้าน ทั้งจากการทำรัง ปล่อยมูล หรือคาบสิ่งสกปรกมาปล่อยทิ้งไว้ตามจุดต่างๆ ให้เกิดความน่ารำคาญใจแล้ว ตัวนกพิราบเองยังสามารถแพร่พันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว

อีกทั้งยังเป็นตัวการสำคัญในฐานะพาหะนำเชื้อโรคที่อาจทำให้คุณและคนในบ้านเจ็บไข้ได้ป่วย และเป็นอันตราบถึงชีวิตได้ด้วย ดังนั้นแล้ว เราจึงควรทำความเข้าใจกับอันตรายที่เกิดขึ้นจากนกพิราบก่อน เพื่อนำไปสู่การใช้วิธีไล่นกพิราบอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมีข้อควรรู้ดังนี้

 

1. สร้างความสกปรก

หนึ่งในปัญหาชวนปวดหัวคงหนีไม่พ้นการที่นกพิราบสร้างความสกปรกให้กับตัวบ้านของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการคาบกิ่งไม้เพื่อมาสร้างรังและวางไข่ การเกาะอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ภายในบ้านที่อาจทำให้เกิดคราบสกปรกได้ ตลอดจนการปล่อยมูลหรือสิ่งปฏิกูลที่อาจส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมา ทำให้บ้านมีกลิ่นเหม็นและส่งผลต่อสภาพแวดล้อมภายในบ้านที่ไม่ดีได้

2. สร้างความรำคาญให้กับผู้อยู่อาศัย

แน่นอนว่านอกจากนกพิราบจะสร้างความสกปรกให้กับเจ้าของบ้านและผู้อยู่อาศัยแล้ว ยังสร้างความรำคาญให้กับผู้อยู่อาศัยอีกด้วย ทั้งการส่งเสียงร้องตลอดเวลา และคอยบินไปบินมาอยู่รอบบ้านซึ่งสร้างความไม่สบายใจให้กับคุณและคนในบ้านอย่างมาก

3. แพร่พันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว

คงจะดีไม่น้อยหากรีบใช้วิธีไล่นกพิราบในทันที เพราะไม่อย่างนั้นอาจทำให้นกพิราบที่มาเกาะบ้านคุณ ได้มีโอกาสแพร่พันธุ์อย่างรวดเร็ว เนื่องจากนกพิราบจะทำการวางไข่ครั้งละ 1-2 ฟอง และใช้เวลาฟักเพียง 3 สัปดาห์ถึง 1 เดือนเท่านั้น จึงอาจส่งผลให้ลูกนกพิราบเหล่านั้นมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และอาจนำไปสู่การเกิดเชื้อโรคต่างๆ ได้

4. พาหะนำเชื้อโรค

เมื่อนกพิราบได้เข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านของคุณและมีการแพร่พันธุ์เพื่อเพิ่มจำนวนมากขึ้น สิ่งอันตรายที่คุณควรคำนึงตามมาคือเชื้อโรคที่อาจมาพร้อมกับนกพิราบนั่นเอง เนื่องจากนกพิราบถือเป็นพาหะนำเชื้อโรคมาสู่มนุษย์ได้ง่ายและรวดเร็ว ทำให้เป็นสาเหตุของการเกิดโรคต่างๆ ได้  เช่น โรคไข้หวัดนก โรคซิตตาโคซิส โรคคริปโตคอกโคสิส และโรคฮิสโตพลาสโมซิส เป็นต้น

  • ไข้หวัดนก (Avian Influenza)

ไข้หวัดนกเป็นโรคติดเชื้อไรัสที่เกิดจากการแพร่เชื้อโดยสัตว์ปีกโดยเฉพาะนกพิราบ ซึ่งสามารถเกิดจากการสัมผัสจากสิ่งคัดหลั่ง เช่น น้ำมูก น้ำลาย หรือจากสภาพแวดล้อมที่ปนเปื้อนไปด้วยเชื้อไวรัสทั้งจากพื้นดินและอากาศ จึงทำให้ผู้ที่สัมผัสอาจได้รับเชื้อตามมา โดยอาการที่พบส่วนใหญ่ คือ ท้องเสีย เหนื่อยหอบจากภาวะปอดอักเสบ และอาจทำให้ผู้ป่วยมีไข้และเกิดอาการชักขึ้นได้ ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนที่สามารถป้องกันเชื้อไวรัสดังกล่าวได้โดยตรง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสามารถฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ รวมไปถึงการป้องกันด้วยวิธีไล่นกพิราบต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันการเกิดไข้หวัดนกขึ้น

  • โรคซิตตาโคซิส (Psittacosis)

โรคซิตตาโคซิสหรือที่รู้จักในชื่อของโรคไข้นกแก้ว เกิดจากเชื้อไวรัสที่เรียกว่า Chlamydia Psittaci ซึ่งมาจากสัตว์มีปีก เช่น นกแก้ว โดยเชื้อดังกล่าวสามารถติดต่อได้ทางการหายใจ ทำให้เมื่อสัมผัสกับส่วนต่างๆ บนตัวนกเช่น ขน อาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคดังกล่าวได้ โดยอาการที่พบได้ในโรคซิตตาโคซิส ได้แก่ ปวดศีรษะ มีไข้ ตัวหนาวสั่น และมีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ทั้งนี้ สามารถใช้ยาปฏิชีวนะในการรักษาโรคดังกล่าวได้

  • โรคคริปโตคอกโคสิส (Cryptococcosis)

โรคคริปโตคอกโคสิสเป็นอีกหนึ่งโรคที่อาจเกิดขึ้นได้หากคุณยังไม่สามารถหาวิธีไล่นกพิราบให้ออกจากบ้านได้ ซึ่งโรคดังกล่าวเกิดจากเชื้อรา Cryptococcus เข้าสู่ร่างกายผ่านการสัมผัสมูลของนกพิราบ โดยผู้ที่เป็นโรคคริปโตคอกโคสิส จะมีอาการปอดและสมองอักเสบ ทำให้มีไข้ ไอ ปวดหัว รู้สึกคลื่นไส้ และบางครั้งอาจรู้สึกเจ็บหน้าอกได้

  • โรคฮิสโตพลาสโมซิส (Histoplasmosis)

โรคฮิสโตพลาสโมซิสเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับปอด ซึ่งเกิดจากเชื้อราที่มาจากสัตว์ปีก โดยสามารถแพร่เชื้อได้ทางอากาศ ทำให้ผู้ที่เป็นโรคนี้มีอาการไอ เหนื่อยหอบ มีไข้และปวดเมื่อย นอกจากนั้น ยังอาจส่งผลอันตรายต่อต่อมหมวกไตอีกด้วย

 

นกพิราบ

 

การที่นกพิราบมาเกาะ หรือมาสร้างรังไว้ในบริเวณบ้านนั้นสามารถส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของผู้อาศัยเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นสร้างความรำคาญ หรือปัญหาต่างๆ ที่อาจตามมาได้อีกมากมาย แถมยังเป็นพาหะนำโรคอันตรายอีกด้วย ดังนั้น จึงควรใช้วิธีไล่นกพิราบให้พ้นจากบริเวณที่พักอาศัย เช่น การกำจัดรังนก แขวนกระดิ่ง หรือติดตาข่าย เป็นต้น เพื่อให้บ้านของคุณนั้นสะอาด และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

RELATED ARTICLES