KNOW HOW
  • Know How

    รีไฟแนนซ์บ้านคืออะไร? สามารถทำได้อย่างไรบ้าง

    บทความที่จะมาแนะนำการรีไฟแนนซ์บ้าน เริ่มตั้งแต่ความหมายของการรีไฟแนนซ์ รวมไปถึงขั้นตอนการยื่นเรื่องไปจนจบการดำเนินการ

    AP THAILAND

    AP THAILAND

    วิธีรีไฟแนนซ์บ้าน

    หลายๆ คนเมื่อมีหน้าที่การงานที่มั่นคง และพอจะมีเงินเก็บก้อนใหญ่ ก็เริ่มที่จะทำตามความฝัน โดยการซื้อบ้านสวยๆ สักหลัง แต่ในการซื้อบ้านนั้นก็มาพร้อมกับภาระค่าใช้จ่ายที่จะต้องแบกรับในทุกเดือน ซึ่งหลังจาก 3 ปีแรกดอกเบี้ยในการกู้ซื้อบ้านก็ถูกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งอาจกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินได้

     

    เพราะฉะนั้น เพื่อเป็นการลดดอกเบี้ยในการผ่อนชำระหนี้ หลายคนเลือกที่จะยื่นเรื่องขอรีไฟแนนซ์บ้านนั้นเอง และหากคุณยังสงสัย ไม่เข้าใจว่าการรีไฟแนนซ์บ้านคืออะไร? มีขั้นตอน ข้อดีและประโยชน์อย่างไรบ้าง บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจเรื่องรีไฟแนนซ์บ้านให้มากขึ้น ก่อนตัดสินใจว่าสามารถช่วยให้คุณประหยัดได้จริงหรือไม่

     

    รีไฟแนนซ์บ้านคืออะไร

     

    ไขข้อสงสัย รีไฟแนนซ์บ้านคืออะไร

    จะซื้อบ้านทั้งทีต้องรู้ว่าการรีไฟแนนซ์บ้านคืออะไร ขอยกคำนิยามความหมายของการรีไฟแนนซ์บ้านแบบคร่าวๆ ว่าหมายถึงการเข้าไปยื่นขอสินเชื่อเงินกู้จากธนาคารใหม่ที่มีดอกเบี้ยถูกกว่าธนาคารเก่า โดยจะมีบ้านเป็นหลักประกัน สำหรับวัตถุประสงค์หลักของการรีไฟแนนซ์ก็เพื่อผ่อนชำระดอกเบี้ยเงินกู้ในอัตราที่ถูกลง หรือสามารถเพิ่มลดระยะเวลาผ่อนได้ และยังช่วยให้ลดรายจ่ายในแต่ละเดือนได้อีกด้วย

     

    แนวทางการคิดดอกเบี้ยของธนาคารในการกู้เงินมาซื้อบ้านนั้น ธนาคารมีหลักการคิดอย่างไรบ้าง? โดยปกติแล้วจะมีวิธีการคิดดอกเบี้ยด้วยกัน 2 วิธีคือ

    • การคิดดอกเบี้ยแบบคงที่ ธนาคารจะระบุกับผู้ขอกู้สินเชื่อว่าธนาคารจะทำการคิดดอกเบี้ยคงที่เพียง 3% ในระยะเวลา 3 ปีเท่านั้น หรือตามที่ธนาคารกำหนด
    • การคิดดอกเบี้ยแบบลอยตัว ธนาคารจะมีวิธีการคิดดอกเบี้ยที่เปลี่ยนแปลงไปตามอัตราดอกเบี้ยที่ถูกกำหนดออกมาในระยะเวลานั้นๆ หรือช่วงที่ธนาคารออกมาประกาศ การคิดดอกเบี้ยในลักษณะนี้ ทางธนาคารจะต้องทำการอ้างอิงจากค่า MRR, MOR, MLR

     

    ●  ข้อดีของการรีไฟแนนซ์บ้าน

    แน่นอนว่าเหตุผลที่ทำการรีไฟแนนซ์บ้านนั้น เพราะมีข้อดีที่สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนที่ต้องชำระกับทางธนาคาร สามารถช่วยลดภาระหนี้สินได้ หรือบางกรณีเมื่อยื่นเรื่องไปแล้วอาจจะได้วงเงินกู้ที่มากกว่าเดิม

    ซึ่งทั้งหมดนี้คุณสามารถแจ้งกับทางธนาคารได้ว่าต้องการรีไฟแนนซ์บ้านเพื่อเหตุผลอะไร และทางธนาคารจะนำเหตุผลนั้นไปพิจารณาพร้อมเอกสารต่างๆ และอนุมัติตามความเหมาะสม ทั้งนี้ การทำเรื่องรีไฟแนนซ์บ้านยังสามารถทำได้ในทุกๆ 3 ปี

     

    ลดดอกเบี้ย

    หากมีเหตุจำเป็นที่ต้องใช้เงินสดมากขึ้นในแต่ละเดือน วิธีรีไฟแนนซ์บ้านที่ตอบโจทย์คือ การรีไฟแนนซ์เพื่อขอลดดอกเบี้ยให้ต่ำลง เพราะเมื่อผ่อนบ้านไปสักระยะจะพบว่า จากเดิมดอกเบี้ยคงที่อยู่ที่ 3% ในปีถัดมาอาจจะกระโดดขึ้นเป็น 4-6% เลยทีเดียว การรีไฟแนนซ์เพื่อลดดอกเบี้ยจะทำให้สามารถชำระดอกเบี้ยในอัตราที่น้อยลงได้ ซึ่งอัตราของดอกเบี้ยอาจจะลดลงเหลือเพียง 2.75% หรือน้อยกว่านั้น ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละธนาคาร

     

    ลดระยะเวลาผ่อน

    ลดระยะเวลาผ่อน

    นอกจากวิธีรีไฟแนนซ์บ้านจะช่วยให้ลดดอกเบี้ยได้แล้ว ยังสามารถช่วยลดระยะเวลาในการผ่อนบ้านได้อีกด้วย ในขั้นตอนนี้จะต้องเลือกระยะเวลาในการผ่อนชำระที่น้อยลง และเพิ่มจำนวนเงินที่ต้องผ่อนชำระในแต่ละเดือน เช่น ปกติผ่อนชำระเดือนละ 14,000 บาท จำนวนปีที่ผ่อน 30 ปี

    เมื่อทำการรีไฟแนนซ์เพื่อขอลดระยะเวลาการผ่อน จะทำให้จำนวนเงินที่ต้องผ่อนชำระเพิ่มขึ้นเป็น 18,000 บาท และจำนวนปีที่ผ่อนจะลดลงเหลือ 20 ปี ดังนั้น การรีไฟแนนซ์บ้านเพื่อลดระยะเวลาในการผ่อน ทำให้หนี้ผ่อนชำระของคุณหมดไวมากขึ้น

    ลดรายจ่าย

    สำหรับคนที่ต้องการสภาพคล่องทางการเงิน การเลือกวิธีรีไฟแนนซ์บ้านเพื่อลดค่าใช้จ่ายก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดี ซึ่งปกติต้องผ่อนชำระหนี้สินยอดเงินอยู่ที่ 20,000 บาท ในทุกๆ เดือน เมื่อทำการยื่นขอรีไฟแนนซ์บ้านจะสามารถลดยอดผ่อนชำระรายเดือนได้อยู่ที่ประมาณ 16,000 บาท ในการคิดคำนวณจำนวนเงินยอดนี้จะขึ้นอยู่กับการตกลงระหว่างผู้กู้สินเชื่อและทางธนาคารที่จะพิจารณาจากเอกสารที่ได้ยื่นไป

     

    สิ่งที่ควรรู้ก่อนรีไฟแนนซ์บ้าน

     

    สิ่งที่ควรรู้ก่อนรีไฟแนนซ์บ้าน

    ได้ทราบไปแล้วว่าการรีไฟแนนซ์บ้านคืออะไร ก็มาถึงส่วนสำคัญที่ควรรู้ก่อนการตัดสินใจรีไฟแนนซ์ เพราะการยื่นเรื่องขอรีไฟแนนซ์บ้านมีข้อจำกัดที่ควรรู้ เช่น คุณจะเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายในกระบวนการยื่นเอกสารทำเรื่องทุกขั้นตอนกับทางธนาคาร และแต่ละธนาคารก็จะมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันออกไป

    ทั้งนี้ ก่อนที่จะตัดสินใจยื่นรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารใหม่ ยังสามารถตรวจสอบอัตราดอกเบี้ยกับธนาคารเก่าได้อีกด้วย เพราะธนาคารจะมีส่วนลดหรือมีการปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยให้กับผู้ที่กู้สินเชื่ออยู่ในปัจจุบัน ซึ่งการกู้สินเชื่อกับธนาคารเก่าอาจจะมีความคุ้มค่ามากกว่า เพราะไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายในกระบวนการยื่นเอกสารรีไฟแนนซ์

    ดังนั้น สิ่งที่อยากแนะนำให้ทำคือการสำรวจอัตราดอกเบี้ยของธนาคารต่างๆ และคำนวณค่าใช้จ่ายอื่นๆ ก่อนการยื่นเรื่องรีไฟแนนซ์บ้าน พร้อมศึกษาวิธีรีไฟแนนซ์บ้านอย่างถูกต้อง เพื่อให้การยื่นเรื่องนั้นเป็นได้ด้วยดี  ไม่มีอะไรติดขัด และไม่เสียเปรียบ

     

    วิธีรีไฟแนนซ์บ้าน

    วิธีรีไฟแนนซ์บ้าน

    แม้ว่าจะต้องใช้เวลานานในการตัดสินใจพิจารณาเลือกธนาคารที่มีดอกเบี้ยต่ำและโดนใจมากที่สุด แต่หากเป็นขั้นตอนวิธีรีไฟแนนซ์บ้านนั้น ก็ไม่ได้มีความยุ่งยากเลยสักนิด เพราะหากเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน และทำการศึกษาขั้นตอนอย่างละเอียด จะทำให้การยื่นเอกสารนั้นรวดเร็วและไม่ติดขัด

    ●  ตรวจสอบสัญญากู้เดิม

    ก่อนการยื่นเรื่องรีไฟแนนซ์บ้าน ต้องทำการติดต่อขอเอกสารสรุปยอดหนี้ทั้งหมดจากธนาคารเก่า เพื่อเป็นการสรุปรายละเอียด เช่น จำนวนเงินที่กู้ ระยะเวลาที่ชำระไปแล้ว เหลือเวลาที่ต้องผ่อนชำระอีกกี่ปี หลังจากนั้นให้นำเอกสารนี้ไปยื่นที่ธนาคารใหม่ที่เลือกไว้

    ●  เลือกธนาคารใหม่ที่ใช่

    การเลือกกู้สินเชื่อกับธนาคารใหม่จะทำให้ได้ดอกเบี้ยในอัตราที่น้อยลง โดยสามารถทำการหาข้อมูลและเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยได้จากหลายๆ ธนาคาร เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจ ซึ่งธนาคารหลายๆ แห่งก็จะมีโปรโมชันดอกเบี้ยให้ได้เลือกแบบจุใจ โดยอัตราต่ำสุดจะอยู่ที่ 2.39%-2.89% แต่ทั้งนี้ ในการเลือกกู้สินเชื่อกับธนาคารใหม่ ก็ต้องนำรายละเอียดอื่นๆ ในข้อกำหนดและเงื่อนไขมาพิจารณาด้วยก่อนการตัดสินใจ

     

    เตรียมเอกสารรีไฟแนนซ์บ้าน

     

    • เตรียมเอกสารให้พร้อม

    เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา คุณควรเตรียมเอกสารต่างๆ ให้พร้อม เพื่อนำเอกสารไปยื่นกับทางธนาคารใหม่ ซึ่งเอกสารที่ใช้มีดังต่อไปนี้

    เอกสารที่ใช้สำหรับการรีไฟแนนซ์บ้าน

    เอกสารส่วนตัว

    • สำเนาทะเบียนบัตรประชาชน
    • สำเนาทะเบียนบ้านทุกหน้า
    • ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล
    • ทะเบียนสมรส (กรณีกู้ร่วม)

    เอกสารแสดงหลักฐานทางการเงิน (สำหรับผู้ที่เป็นพนักงานบริษัท)

    • สลิปเงินเดือนล่าสุด
    • หนังสือรับรองเงินเดือนไม่เกิน 3 เดือน
    • รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน

    เอกสารแสดงหลักฐานทางการเงิน (สำหรับเจ้าของกิจการส่วนตัว)

    • เอกสารทะเบียนการค้า ทะเบียนบริษัท
    • หลักฐานการเสียภาษีเงินได้จากกรมสรรพากร

    เอกสารหลักประกันการรีไฟแนนซ์บ้าน

    • สำเนาเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์หลักประกัน (เช่น โฉนดที่ดิน หรือ หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด อช.2)
    • สำเนาหนังสือสัญญาการซื้อขายหรือให้ที่ดิน ทด.13 หรือ 14 หรือสัญญาซื้อขายห้องชุด
    • สำเนาสัญญากู้จากธนาคารเก่า
    • สำเนาสัญญาจำนองที่ดิน หรือ สำเนาสัญญาจำนองห้องชุด
    • สำเนาใบเสร็จแสดงธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับบ้านหรือสำเนาใบเสร็จผ่อนชำระค่างวดบ้าน
    • แผนที่ตั้งหลักประกันโดยสังเขป

     

    ยื่นเอกสารขอรีไฟแนนซ์ให้ธนาคาร

     

    • ยื่นเอกสารขอรีไฟแนนซ์ให้ธนาคารที่เลือก

    เมื่อเตรียมเอกสารข้างต้นเป็นที่เรียบร้อย ก็ถึงขั้นตอนที่จะนำเอกสารไปยื่นที่ธนาคารใหม่ การพิจารณาของทางธนาคารอาจจะใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์ และเมื่อเอกสารของคุณผ่านการรีไฟแนนซ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางธนาคารจะทำการส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาประเมินทรัพย์สิน ซึ่งจะเป็นการประเมินว่ายอดเงินสินเชื่อที่กู้ได้จะเป็นวงเงินจำนวนเท่าไร ทั้งนี้ ขั้นตอนในการยื่นเอกสารอาจจะแตกต่างกันไปตามนโยบายของแต่ละธนาคาร

    • ทำสัญญาใหม่

    เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยก็ถึงวันที่คุณจะต้องนัดวันทำสัญญาใหม่ และจดจำนองที่ดินพร้อมทั้งชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้เรียบร้อย โดยต้องนัดหมายกับนายธนาคารใหม่ และนายธนาคารเก่าภายในวันเดียวกัน ณ สำนักงานที่ดินเขตที่ตั้งของทรัพย์สิน เพื่อทำการโอนกรรมสิทธิ์และมอบโฉนดที่ดินให้กับนายธนาคารใหม่ เพียงเท่านี้การรีไฟแนนซ์บ้านของคุณก็เป็นอันเรียบร้อย และเท่ากับว่าในทุกๆ เดือนจะต้องทำการผ่อนชำระหนี้ไปยังธนาคารใหม่นั้นเอง

     

    ค่าใช้จ่ายสำหรับการรีไฟแนนซ์

     

    ค่าใช้จ่ายสำหรับการรีไฟแนนซ์

    สำรวจความพร้อมของสถานะทางการเงินก่อนการทำเรื่องรีไฟแนนซ์บ้าน เพราะการรีไฟแนนซ์บ้านก็เหมือนกับการเริ่มต้นทำสัญญาเงินกู้ใหม่ ดังนั้น จะมีค่าธรรมเนียมและค่าดำเนินการต่างๆ ที่ผู้กู้จะต้องแบกรับ

     

    รายการค่าใช้จ่ายจะสามารถแบ่งออกได้ดังนี้

    • ค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระให้ทางธนาคาร
      • ค่าประเมินราคาบ้าน ประมาณ 2,000-3,000 บาท ขึ้นอยู่กับธนาคาร พื้นที่ให้บริการ
      • ค่าประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน หรือ MRTA เป็นประกันชีวิตที่สามารถช่วยคุ้มครองความเสี่ยงให้กับผู้ที่กำลังผ่อนบ้านเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
      • ค่าธรรมเนียมอื่นๆ
    • ค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระตามกฏหมาย
      • ค่าจดจำนอง คิดจาก 1% ของวงเงินกู้ เป็นการชำระให้กับทางกรมที่ดิน
      • ค่าอากรแสตมป์ คิดจาก 0.05% ของวงเงินกู้ เป็นการชำระให้กับทางกรมสรรมพากร
      • ค่าประกันภัยอัคคีภัย ราคาประมาณหลักพันบาทต่อปี

     

    ค่าใช้จ่ายโดยประมาณในการรีไฟแนนซ์จะอยู่ที่ 2-3% หรืออาจจะมากถึง 4% ของวงเงินกู้ หรือหากตีเป็นจำนวนเงินอาจจะอยู่ที่ประมาณ 10,000-30,000 บาทเลยก็ว่าได้ ฉะนั้น หากคุณกำลังหาข้อมูล หรือกำลังตัดสินใจยื่นเรื่องเพื่อขอรีไฟแนนซ์บ้าน ควรศึกษารายละเอียดของค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์อีกครั้ง จะได้เป็นการคำนวณในเบื้องต้นว่าการยื่นเรื่องขอรีไฟแนนซ์นั้นคุ้มค่าหรือไม่

     

    การรีไฟแนนซ์บ้านคือ การเปลี่ยนธนาคารในการกู้ใหม่ โดยนำเงินที่กู้จากธนคารใหม่มาจ่ายธนาคารเก่า แล้วเริ่มผ่อนกับธนาคารใหม่ที่ทำการกู้ เพื่อให้ได้ดอกเบี้ยที่ถูกลง โดยปกติแล้ว 1-3 ปีแรกที่กู้เงิน อัตราดอกเบี้ยจะต่ำกว่าธนาคารเก่า ทำให้หลายๆ คนเลือกที่จะรีไฟแนนซ์ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย ซึ่งวิธีรีไฟแนนซ์บ้านก็สามารถทำได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก โดยเริ่มจากการตรวจเอกสารการกู้เดิม หาธนาคารที่ดอกเบี้ยถูก เงื่อนไขดี ยื่นเอกสาร และทำสัญญาใหม่ เพียงเท่านี้ก็สามารถทำการรีไฟแนนซ์บ้านได้แล้ว

    RELATED ARTICLES