เงินดาวน์บ้าน คืออะไร? ซื้อบ้านต้องดาวน์เท่าไหร่ คำนวณยังไง

MAIN POINT

 

• เงินดาวน์บ้าน คือ เงินก้อนที่ต้องจ่ายให้เจ้าของบ้านหรือโครงการ ในอัตราประมาณ 5-30% ของราคาบ้าน โดยสามารถจ่ายได้ทั้งรูปแบบการดาวน์บ้านแบบครั้งเดียว, ผ่อนดาวน์แบบเท่ากันทุกงวด หรือผ่อนดาวน์แบบมีงวดบอลลูน
• หากวางเงินดาวน์บ้านแล้วกู้ไม่ผ่าน สามารถลองเจรจากับโครงการ, ตรวจสอบสาเหตุที่กู้ไม่ผ่าน, หาคนกู้ร่วม, ประกาศขายดาวน์ หรือขอคืนเงินดาวน์ที่จ่ายไปได้

 

 

เงินดาวน์บ้าน เรื่องต้องรู้ก่อนเป็นเจ้าของบ้าน ตัวช่วยประหยัดดอกเบี้ย และเพิ่มโอกาสให้ธนาคารอนุมัติสินเชื่อได้รวดเร็วมากขึ้น ในบทความนี้ AP Thai จะพามาดูกันว่าเงินดาวน์บ้านคืออะไร การจ่ายเงินดาวน์บ้านมีกี่แบบ พร้อมเรื่องสำคัญที่ควรรู้ก่อนวางเงินดาวน์บ้าน มาฝากกัน

เงินดาวน์บ้าน คืออะไร?

 

เงินดาวน์บ้าน คือ เงินก้อนที่ต้องจ่ายให้กับเจ้าของบ้านหรือโครงการ ก่อนทำสัญญากู้สินเชื่อกับธนาคาร เพื่อเป็นหลักประกันและสร้างความมั่นใจให้กับผู้ขาย โดยทั่วไปเงินดาวน์จะอยู่ที่ 5-30% ของราคาบ้าน ซึ่งจะถูกนำไปหักกับมูลค่าบ้านทั้งหมด ทำให้ยอดกู้ลดลง ช่วยประหยัดดอกเบี้ย และเพิ่มโอกาสให้ธนาคารอนุมัติสินเชื่อได้รวดเร็วมากขึ้น

 

• กรณีบ้านพร้อมอยู่ สำหรับบ้านที่พร้อมโอนกรรมสิทธิ์ ทั้งบ้านมือหนึ่งและบ้านมือสอง ผู้ซื้อต้องเตรียมวางเงินดาวน์เต็มจำนวน สำหรับจ่ายชำระให้ครบถ้วน ก่อนเซ็นสัญญาโอนกรรมสิทธิ์ จึงจะสามารถเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยได้อย่างสมบูรณ์ โดยในปัจจุบันโครงการบ้านใหม่ มักมีโปรโมชันฟรีเงินดาวน์ เพื่อดึงดูดความสนใจผู้ซื้ออีกด้วย
• กรณีบ้านยังสร้างไม่เสร็จ สำหรับบ้านที่ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ต้องมีการทำสัญญาจะซื้อจะขายระหว่าง 2 ฝ่าย โดยโครงการส่วนใหญ่มักเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อ สามารถผ่อนดาวน์ได้ตามระยะเวลาที่ตกลงกัน

การดาวน์บ้าน มีทั้งหมดกี่แบบ?

 

การดาวน์บ้าน มีทั้งหมด 3 แบบ คือ การจ่ายดาวน์แบบครั้งเดียว, ผ่อนดาวน์แบบเท่ากันทุกงวด และผ่อนดาวน์แบบงวดบอลลูน โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. จ่ายดาวน์บ้านแบบครั้งเดียว

การจ่ายดาวน์บ้านแบบครั้งเดียว คือ การชำระเงินดาวน์บ้านเป็นเงินก้อนในครั้งเดียวจบ ส่วนใหญ่มักเป็นบ้านหรือโครงการที่สร้างเสร็จสมบูรณ์ พร้อมให้เข้าอยู่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นหลังจากจ่ายเงินดาวน์แบบครั้งเดียวเสร็จ ก็สามารถทำเรื่องสัญญากู้สินเชื่อกับทางธนาคาร โอนกรรมสิทธิ์ และย้ายเข้ามาอยู่ได้เลย

2. ผ่อนดาวน์บ้านแบบเท่ากันทุกงวด

การผ่อนดาวน์บ้านแบบเท่ากันทุกงวด ส่วนใหญ่มักเป็นบ้านหรือโครงการที่ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และมักให้เวลาการผ่อนดาวน์ประมาณ 1-3 ปี หรือตามแต่ระยะเวลาการก่อสร้างโครงการ โดยชำระตามงวดรายเดือน เป็นเงินจำนวนเท่ากันทุกงวดจนครบกำหนด

เช่น ซื้อบ้านที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ราคา 5,000,000 บาท มีอัตราผ่อนดาวน์ที่ 10% คือ 500,000 บาท ในระยะเวลาการผ่อนดาวน์ 20 เดือน ดังนั้นต้องจ่ายค่างวดต่อเดือน 25,000 บาท เป็นต้น

3. ผ่อนดาวน์บ้านแบบงวดบอลลูน

การผ่อนดาวน์บ้านแบบบอลลูนคล้ายกับการผ่อนดาวน์แบบเท่ากันทุกงวด คือผ่อนชำระรายเดือนเหมือนกัน แต่จะมีบางงวดที่ต้องจ่ายมากกว่าปกติ เช่น ต้องจ่ายค่าผ่อนดาวน์บ้าน 450,000 บาท ในระยะเวลา 28 เดือน โดยแบ่งเป็นงวดธรรมดาเดือนละ 12,000 บาท จำนวน 25 งวด และงวดบอลลูนเดือนละ 50,000 บาท ในงวดที่ 10, 15 และ 28 เป็นต้น ดังนั้นต้องวางแผนการเงินให้ดี เพื่อชำระได้อย่างครบถ้วน

ซื้อบ้าน ต้องจ่ายเงินดาวน์เท่าไหร่?

 

ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ปรับมาตรการควบคุมสินเชื่อสำหรับที่อยู่อาศัย หรือมาตรการ LTV (Loan to Value) เพื่อช่วยให้ประชาชนกู้ซื้อบ้านได้ง่ายมากยิ่งขึ้น โดยมีรายละเอียดหลักเกณฑ์เงินดาวน์ขั้นต่ำ ดังนี้

1. บ้านราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท

จำนวนสัญญา	การวางเงินดาวน์ขั้นต่ำ
สัญญาที่ 1	กู้ได้เต็มมูลค่าหลักประกัน และกู้เพิ่มได้ 10%
สัญญาที่ 2	– เงินดาวน์ขั้นต่ำ 10% หากผ่อนสัญญาที่ 1 มากกว่าหรือเท่ากับ 2 ปี  (เดิม 3 ปี) – เงินดาวน์ขั้นต่ำ 20% หากผ่อนสัญญาที่ 1 น้อยกว่า 2 ปี (เดิม 3 ปี)
สัญญาที่ 3	เงินดาวน์ขั้นต่ำ 30%

 

สำหรับการกู้บ้านสัญญาแรก ในราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท แม้จะกู้ได้เต็มเพดาน LTV 100% แล้ว ยังสามารถกู้เพิ่มได้อีก 10% ของมูลค่าหลักประกัน สำหรับค่าใช้จ่ายในการเข้าอยู่อาศัย อาทิ การตกแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ การซ่อมแซมและต่อเติม เป็นต้น

2. บ้านราคาเกิน 10 ล้านบาท

จำนวนสัญญา	การวางเงินดาวน์ขั้นต่ำ
สัญญาที่ 1	เงินดาวน์ขั้นต่ำ 10% (เดิม 20%)
สัญญาที่ 2	เงินดาวน์ขั้นต่ำ 20%
สัญญาที่ 3	เงินดาวน์ขั้นต่ำ 30%

 

สำหรับการกู้บ้านสัญญาแรก ในระดับราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ก็มีการกำหนดให้วางเงินดาวน์ที่น้อยลงจากเดิม 20% เป็น 10% แทน เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนคนไทยสามารถเป็นเจ้าของบ้านสัญญาแรกได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

3. กรณีกู้ร่วม

 

จากเดิมที่การกู้ร่วมเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยถือเป็นการกู้ของทุกคน แต่ปัจจุบันมาตรการ LTV มีการผ่อนปรนใหม่ หากผู้กู้ร่วมไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัย ให้ผ่อนปรนเสมือนว่ายังไม่เป็นผู้กู้ในครั้งนั้น ถือว่าเป็นเพียงแค่การช่วยเหลือกันภายในครอบครัว เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบของผู้กู้ร่วมที่ไม่ได้มีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัย ให้ได้รับสินเชื่อตามความเหมาะสมมากขึ้น ดังนั้นเมื่อต้องการกู้ซื้อที่อยู่อาศัยของตนเองก็สามารถทำได้ โดยจะนับว่าเป็นสัญญาแรกนั่นเอง

การดาวน์บ้าน ต้องรู้อะไรบ้าง?

 

1. กำหนดงบประมาณในการซื้อบ้าน

ควรกำหนดงบประมาณราคาบ้านในระดับที่เรามีกำลังผ่อนชำระ โดยอาจพิจารณาเบื้องต้นจากรายได้, หนี้สินอื่น ๆ, เงินสำรองฉุกเฉิน หรือความเสี่ยงในอนาคต ทั้งนี้อัตราการผ่อนบ้านไม่ควรเกิน 30-40% ของรายได้ทั้งหมดต่อเดือน 

 

ทั้งนี้ AP ได้มัดรวมวิธีการคำนวณซื้อบ้านมาให้แล้ว สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากบทความ คำนวณเงินกู้ซื้อบ้าน 2568 พร้อม 8 เคล็ดลับยื่นกู้ให้ผ่านได้วงเงินสูง 

 

แต่ถ้าต้องการใช้โปรแกรมคำนวณซื้อบ้าน สามารถใช้ โปรแกรมคำนวณสินเชื่อเบื้องต้นจากเอพี เพื่อเช็กวงเงินสินเชื่อและค่างวดรายเดือนแบบคร่าว ๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจและวางแผนการเงินในอนาคต

2. คำนวณเงินดาวน์บ้าน

โดยทั่วไปเงินดาวน์จะอยู่ที่ 5-30% ของราคาบ้าน และหากเป็นการผ่อนดาวน์บ้านจะมีระยะเวลาประมาณ 1-3 ปี หรือตามแต่ระยะเวลาการก่อสร้างโครงการ

 

ตัวอย่างการผ่อนดาวน์บ้าน

ราคาบ้าน	อัตราผ่อนดาวน์	ระยะเวลาการผ่อน	ค่างวดต่อเดือน
4,500,000	10%(450,000)	24 เดือน	18,750
		18 เดือน	25,000

3. เตรียมเงินดาวน์บ้าน

หากต้องจ่ายเงินดาวน์บ้านแบบครั้งเดียว ก็ต้องมีเงินก้อนจำนวนหนึ่งเตรียมเอาไว้ให้พร้อม หรือหากผ่อนดาวน์แบบชำระเป็นรายเดือน ทั้งแบบเท่ากันทุกงวดหรือมีงวดบอลลูน ก็ต้องวางแผนการเงินไว้อย่างครอบคลุม เช่น เก็บออมเงินดาวน์ล่วงหน้า เพื่อจ่ายให้ครบถ้วนตามจำนวนในกำหนดเวลา

4. ศึกษาเงื่อนไขการดาวน์บ้าน

ศึกษาเงื่อนไขการดาวน์บ้าน คุยข้อตกลงกับทางโครงการให้ชัดเจน อาทิ ต้องจ่ายดาวน์ในรูปแบบไหน ในระยะเวลาเท่าไหร่ คิดเป็นจำนวนกี่เปอร์เซ็นต์ของราคาบ้าน รวมถึงสอบถามเงื่อนไขอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น การคืนเงินดาวน์เต็มจำนวนหากกู้ไม่ผ่าน เพื่อประเมินสถานการณ์และเตรียมความพร้อมก่อนการวางเงินดาวน์บ้าน

5. เตรียมค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการซื้อบ้าน

แน่นอนว่าการซื้อบ้านสักหลัง นอกจากราคาบ้านแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีกมากมาย อาทิ ค่าจองและทำสัญญา, เงินดาวน์บ้าน, ค่าจดจำนอง, ค่าโอนกรรมสิทธิ์, ค่ามิเตอร์น้ำ-ไฟฟ้า, ค่าส่วนกลาง, ค่าตกแต่งบ้าน และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ 

โดยสามารถศึกษาค่าโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มเติมได้จากบทความ ค่าธรรมเนียมโอนที่ดินล่าสุด 2568 คำนวณยังไง มีค่าอะไรบ้าง? เพื่อเตรียมตัววางแผนการเงินทั้งหมดอย่างรอบด้าน

ถ้าวางเงินดาวน์บ้านแล้ว แต่กู้ธนาคารไม่ผ่านต้องทำยังไง?

 

• เจรจาต่อรอง ให้ทางโครงการช่วยเจรจากับทางธนาคาร เพื่อเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อ

• เลื่อนวันรับโอนกรรมสิทธิ์ ขยายระยะเวลา เพื่อยื่นเรื่องกู้สินเชื่อกับธนาคารอื่น ๆ เพิ่มเติม

• ตรวจสอบสาเหตุที่กู้ไม่ผ่าน เช่น รายได้ไม่เพียงพอ หรือหนี้สินส่วนอื่น ๆ เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง

• หาคนกู้ร่วม เช่น คนในครอบครัว หรือคนรัก ที่รายได้มั่นคงและมีความสามารถในการผ่อนชำระ ช่วยเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อได้มากขึ้น

• ประกาศขายดาวน์ หากเป็นโครงการที่อยู่บนทำเลดี มีชื่อเสียง มีความต้องการสูงในตลาด ย่อมมีคนสนใจซื้อดาวน์ต่อ และอาจทำกำไรเพิ่มเติมได้อีกด้วย

• ขอคืนเงินดาวน์จากทางโครงการ ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายดาวน์ก้อนเดียวหรือผ่อนชำระ สามารถขอเงินดาวน์ทั้งหมดคืนจากโครงการได้ตามกฎหมาย

 

รวมสาระเรื่องบ้านและการเงิน เตรียมพร้อมก่อนเป็นเจ้าของบ้าน

• เงินดาวน์คอนโด คืออะไร? มีวิธีและขั้นตอนการดาวน์ยังไงบ้าง?
• อัตราดอกเบี้ยบ้าน 2568 สินเชื่อบ้าน-คอนโด ทุกธนาคาร ล่าสุด

 

วางแผนเงินดาวน์บ้าน ตัวช่วยประหยัดดอกเบี้ยในอนาคต

และทั้งหมดนี้คือสาระความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับการวางเงินดาวน์บ้าน ที่ต้องศึกษาข้อมูลและเตรียมตัววางแผนการเงินให้พร้อม และหากใครที่กำลังมองหาโครงการบ้านดี สามารถใช้ โปรแกรมคำนวณผ่อนบ้านจากเอพี เพื่อหาโครงการบ้านที่ใช่พร้อมเช็กยอดสินเชื่อและค่างวดในแต่ละเดือนแบบคร่าว ๆ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจและวางแผนการเงินในอนาคต หรือหากใครมีโครงการในใจแต่ตัดสินใจเลือกไม่ถูก ก็สามารถใช้ โปรแกรมเปรียบเทียบโครงการที่อยู่อาศัยจากเอพี ที่ช่วยให้เรามองเห็นภาพรวมของแต่ละโครงการได้ง่ายมากขึ้น

เอพีไทยแลนด์ ช่วยเติมเต็มความหมายของชีวิต

เลือกเป็นเจ้าของโครงการบ้านจาก เอพีไทยแลนด์ เพื่อสร้างชีวิตดี ๆ บนพื้นที่ความสุขที่เราเลือกเอง ไม่ว่าจะเป็น โครงการบ้านเดี่ยวพื้นที่กว้างขวางเป็นส่วนตัว ทาวน์โฮมดีไซน์สวยหรือบ้านแฝดฟังก์ชันใหญ่ คอนโดมิเนียมทำเลติดรถไฟฟ้าเดินทางง่าย และโฮมออฟฟิศฟังก์ชันเจ๋งที่รองรับทุกธุรกิจ สามารถเลือกได้ตามต้องการ เพราะ “บ้าน” ไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย

 

EMPOWER LIVING อยู่ .. เพื่อทุกความหมายของคุณ