MAIN POINT
- ใบปลอดหนี้ คือ เอกสารสำคัญที่แสดงว่าเจ้าของเดิมไม่มีหนี้ค้างชำระกับนิติบุคคล ซึ่งจำเป็นสำหรับการซื้อ-ขายบ้านหรือคอนโด เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ซื้อ และใช้แนบประกอบการโอนกรรมสิทธิ์ที่สำนักงานที่ดิน โดยต้องขอจากสำนักงานนิติบุคคลของโครงการก่อนวันโอนกรรมสิทธิ์บ้านหรือคอนโด
- หากไม่มีใบปลอดหนี้ จะไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ที่สำนักงานที่ดินได้ ผู้ขายจึงควรตรวจสอบสถานะการชำระเงินกับนิติบุคคล และยื่นขอเอกสารล่วงหน้า หากพบว่ามีหนี้ค้างชำระควรจัดการให้เรียบร้อยก่อนดำเนินการขายบ้านหรือคอนโด
เมื่อต้องการซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ในหมู่บ้านจัดสรรหรือคอนโด คู่สัญญาทั้งผู้ซื้อและผู้ขายต่างต้องเตรียมเอกสารสำคัญต่าง ๆ เพื่อใช้ในการซื้อขายและโอนกรรมสิทธิ์ หนึ่งในเอกสารที่ขาดไม่ได้ คือ “ใบปลอดหนี้” ซึ่งเป็นหลักฐานยืนยันว่า ไม่มีหนี้ค้างชำระกับนิติบุคคลของโครงการ AP Thai จะพาไปรู้จักว่า ใบปลอดหนี้คืออะไร ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง และ มีขั้นตอนการขออย่างไร พร้อมตอบคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับใบปลอดหนี้กัน
ใบปลอดหนี้ คืออะไร?

ใบปลอดหนี้ หรือ ใบปลอดภาระหนี้จากนิติบุคคล คือ เอกสารสำคัญที่ออกโดยนิติบุคคลของโครงการบ้านหรือคอนโด เพื่อรับรองว่าผู้ขายไม่มีหนี้ค้างชำระ เช่น ค่าบำรุงรักษา ค่ารักษาความปลอดภัย ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าบริหารจัดการส่วนกลางต่าง ๆ ซึ่งเป็นเงื่อนไขจำเป็นในการโอนกรรมสิทธิ์ ณ กรมที่ดิน เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ซื้อรับภาระหนี้สินที่ผู้ขายยังค้างอยู่ หากไม่มีใบปลอดหนี้ เจ้าหน้าที่จะไม่สามารถดำเนินการโอนได้ และอาจถูกเลื่อนออกไปจนกว่าเอกสารจะครบ
ข้อควรรู้:
- สำหรับคอนโดมิเนียมและหมู่บ้านจัดสรรที่มีการบริหารจัดการโดยนิติบุคคล ใบปลอดหนี้ถือเป็นเอกสารที่ต้องใช้ทุกครั้งในการโอนกรรมสิทธิ์
- หากเป็นบ้านในโครงการที่ไม่มีการจัดเก็บค่าส่วนกลางจากนิติบุคคล อาจไม่จำเป็นต้องใช้เอกสารนี้ ทั้งนี้ผู้ซื้อและผู้ขายควรตรวจสอบกับโครงการล่วงหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงความล่าช้าในวันโอนกรรมสิทธิ์
ตัวอย่างเอกสารใบปลอดหนี้

สำหรับผู้ขายที่ต้องการเตรียมเอกสารล่วงหน้า สามารถดูตัวอย่างใบปลอดหนี้จากกรมที่ดินได้ที่นี่ ดาวน์โหลดตัวอย่างเอกสารใบปลอดหนี้
ความสำคัญของใบปลอดหนี้

- ยืนยันว่าไม่มีหนี้ค้างชำระกับนิติบุคคล แสดงเจตจำนงว่าผู้ขายได้ชำระค่าส่วนกลางและค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ อย่างถูกต้องครบถ้วน ช่วยให้ผู้ซื้อมั่นใจในการทำธุรกรรมมากขึ้น
- ดำเนินขั้นตอนการโอนกรรมสิทธิ์ได้ราบรื่น ใบปลอดหนี้เป็นเอกสารที่กรมที่ดินต้องตรวจสอบก่อนทำการโอน หากไม่มีจะไม่สามารถดำเนินการได้
- ปกป้องสิทธิของผู้ซื้อ ป้องกันไม่ให้ผู้ซื้อรับภาระหนี้ที่ผู้ขายค้างไว้ เช่น ค่าส่วนกลางย้อนหลัง หรือค่าปรับ ลดความเสี่ยงในการถูกฟ้องร้องหรือเรียกเก็บย้อนหลัง รวมถึงสามารถใช้เป็นหลักฐานทางกฎหมาย หากมีข้อพิพาทภายหลัง
ข้อควรรู้:
- ในกรณีที่เป็นการซื้อ-ขายด้วยเงินสด และไม่มีการยื่นกู้กับธนาคาร ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย อาจไม่จำเป็นต้องใช้ใบปลอดหนี้ ขึ้นอยู่กับนโยบายของนิติบุคคลและดุลพินิจของเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน
- ทั้งนี้ผู้ซื้อควรสอบถามกับผู้ขาย เพื่อยืนยันให้แน่ใจว่าผู้ขายไม่มีหนี้ค้างชำระใด ๆ เพื่อป้องกันความเสี่ยงในภายหลัง
เอกสารที่ต้องใช้ในการขอใบปลอดหนี้

- สำเนาทะเบียนบ้าน ของทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ (อย่างละ 1 ชุด)
- สำเนาบัตรประชาชน ของทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ (อย่างละ 1 ชุด)
- สำเนาโฉนดที่ดิน หรือหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด (ถ่ายสำเนาทั้งด้านหน้าและด้านหลัง)
- สำเนาสัญญาจะซื้อจะขาย ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย
- ใบเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุล (หากชื่อ-สกุลไม่ตรงกับเอกสารอื่น)
- หนังสือมอบอำนาจและสำเนาบัตรประชาชนผู้รับมอบอำนาจ (กรณีมอบอำนาจ)
- เอกสารเพิ่มเติมอื่น ๆ ตามข้อกำหนดของนิติบุคคลแต่ละโครงการ
หมายเหตุ:
- บางโครงการอาจมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการออกใบปลอดหนี้ โดยปกติจะชำระในวันที่ยื่นขอเอกสาร
- แนะนำให้ติดต่อสอบถามนิติบุคคลล่วงหน้า เพื่อยืนยันรายการเอกสาร และขั้นตอนการยื่นคำขอที่อาจแตกต่างกันในแต่ละโครงการ
ขั้นตอนการขอใบปลอดหนี้

- ผู้ซื้อแจ้งความประสงค์กับผู้ขาย หากต้องการซื้อบ้านหรือคอนโด ผู้ซื้อควรแจ้งผู้ขายให้ดำเนินการขอใบปลอดหนี้ล่วงหน้า เพราะผู้ขายเป็นผู้มีหน้าที่ติดต่อกับสำนักงานนิติบุคคลของโครงการโดยตรง
- ตรวจสอบเอกสารและค่าค้างชำระ ผู้ขายหรือตัวแทนควรตรวจสอบกับนิติบุคคลว่า ต้องใช้เอกสารใดบ้าง และมีค่าใช้จ่ายส่วนกลางหรือค่าสาธารณูปโภคค้างชำระหรือไม่ หากมีต้องชำระให้เรียบร้อยก่อน นิติบุคคลจึงจะออกใบปลอดหนี้ได้
- เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาโฉนด ใบเปลี่ยนชื่อ (ถ้ามี) และเอกสารอื่น ๆ ตามที่นิติบุคคลแจ้ง กรณีผู้ขายไม่สามารถดำเนินการเองได้ ต้องทำหนังสือมอบอำนาจ พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชนของผู้มอบและผู้รับมอบอำนาจด้วย
- ยื่นคำร้องที่สำนักงานนิติบุคคล ยื่นเอกสารพร้อมกรอกแบบฟอร์มคำร้องขอใบปลอดหนี้ บางโครงการอาจมีค่าธรรมเนียมในการออกใบปลอดหนี้ ซึ่งต้องชำระในวันยื่นคำขอ
- รอการออกเอกสารจากนิติบุคคล หลังจากตรวจสอบข้อมูลและชำระเงินครบถ้วนแล้ว นิติบุคคลจะออกใบปลอดหนี้ให้ภายในระยะเวลาประมาณ 7-15 วันทำการ
- วางแผนเรื่องวันโอนกรรมสิทธิ์ เนื่องจากใบปลอดหนี้มักมีอายุการใช้งานจำกัด โดยทั่วไปใช้ได้ภายใน 7-15 วันนับจากวันที่ออกเอกสาร ควรวางแผนการขอเอกสารให้สอดคล้องกับกำหนดวันโอนกรรมสิทธิ์บ้านหรือคอนโดที่กรมที่ดิน
รวมคำถามน่ารู้เกี่ยวกับใบปลอดหนี้

1. ใบปลอดภาระหนี้ ขอได้ที่ไหน?
ใบปลอดภาระหนี้สามารถขอได้ที่สำนักงานนิติบุคคลของโครงการ เช่น คอนโดมิเนียมหรือหมู่บ้านจัดสรร รวมถึงฝ่ายจัดการของโครงการหรือตัวแทนที่ได้รับมอบหมายอย่างเป็นทางการ
2. ใครต้องเป็นคนขอใบปลอดหนี้?
คนที่ต้องขอใบปลอดหนี้ คือ ผู้ขาย แต่สามารถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการแทนได้ โดยต้องจัดเตรียม หนังสือมอบอำนาจ และสำเนาบัตรประชาชนของผู้มอบอำนาจ 1 ฉบับ (ลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง)
3. ขอใบปลอดหนี้ใช้ระยะเวลากี่วัน?
โดยทั่วไปการขอใบปลอดหนี้ใช้ระยะเวลาประมาณ 7-15 วันทำการ นับจากวันที่ยื่นเอกสารครบ และเมื่อใบปลอดหนี้ออกแล้วจะมี อายุการใช้งานประมาณ 7-15 วัน เพื่อป้องกันการปลอมแปลงและอัปเดตให้เป็นข้อมูลปัจจุบัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระเบียบและเงื่อนไขของคอนโดหรือหมู่บ้านจัดสรรในแต่ละแห่ง
4. หากไม่มีใบปลอดหนี้จะเป็นอย่างไร?
หากไม่มีใบปลอดหนี้ อาจไม่สามารถดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ที่สำนักงานที่ดินได้ เนื่องจากเอกสารดังกล่าวเป็นหลักฐานสำคัญว่า ไม่มีภาระผูกพันค้างชำระกับนิติบุคคล นอกจากนี้ หากผู้ขายยังมีค่าส่วนกลางหรือค่าปรับค้างชำระ ผู้ซื้ออาจต้องรับผิดชอบแทนในภายหลัง
ใบปลอดหนี้ เอกสารสำคัญที่คนซื้อขายบ้าน-คอนโดไม่ควรพลาด
ใบปลอดหนี้ เอกสารสำคัญที่ใช้ยืนยันว่าไม่มีภาระหนี้ค้างชำระกับนิติบุคคลของโครงการ ซึ่งคนซื้อขายบ้าน-คอนโดควรตรวจสอบให้รอบคอบ เพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของตนเอง
สำหรับใครที่มองหาโครงการคอนโดหรือบ้านพร้อมที่ดิน สามารถใช้ โปรแกรมคำนวณผ่อนบ้านจากเอพี เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจและวางแผนการเงินในอนาคต หรือหากใครมีโครงการในใจแต่ตัดสินใจเลือกไม่ถูก ก็สามารถใช้ โปรแกรมเปรียบเทียบโครงการที่อยู่อาศัยจากเอพี ที่ช่วยให้เรามองเห็นภาพรวมของแต่ละโครงการได้ง่ายมากขึ้น
รวมสาระดี ๆ เรื่องเอกสารซื้อ-ขายบ้านและคอนโด จาก AP Thai
- สัญญาจะซื้อจะขาย คืออะไร? ต่างจากสัญญาซื้อขายยังไง?
- ค่าธรรมเนียมโอนที่ดินล่าสุด คำนวณยังไง มีค่าอะไรบ้าง?
- ค่าโอนบ้าน ใครต้องจ่าย จ่ายเท่าไร พร้อมวิธีคำนวณง่าย ๆ
- โอนบ้าน-โอนที่ดินให้ลูก ใช้เอกสาร มีขั้นตอนและค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
เอพีไทยแลนด์ ช่วยเติมเต็มความหมายของชีวิต
เลือกเป็นเจ้าของโครงการบ้านจาก เอพีไทยแลนด์ เพื่อสร้างชีวิตดี ๆ บนพื้นที่ความสุขที่เราเลือกเอง ไม่ว่าจะเป็น โครงการบ้านเดี่ยวพื้นที่กว้างขวางเป็นส่วนตัว ทาวน์โฮมดีไซน์สวยหรือบ้านแฝดฟังก์ชันใหญ่ คอนโดมิเนียมทำเลติดรถไฟฟ้าเดินทางง่าย และโฮมออฟฟิศฟังก์ชันเจ๋งที่รองรับทุกธุรกิจ สามารถเลือกได้ตามต้องการ เพราะ “บ้าน” ไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย
EMPOWER LIVING อยู่ .. เพื่อทุกความหมายของคุณ









