KNOW HOW
  • FINANCIAL

เผยสาเหตุที่ยื่นกู้บ้านไม่ผ่าน พร้อมวิธีขอสินเชื่อให้ผ่านฉลุย

บทความที่จะให้ข้อมูลแก่ผู้ที่อยากกู้บ้านให้ผ่าน พร้อมแนะวิธีและการวางแผนอย่างครอบคลุม ช่วยให้คุณขอสินเชื่อกับธนาคารผ่านฉลุย 

AP THAILAND

AP THAILAND

การมีบ้านสักหลังเป็นของตัวเองถือว่าเป็นความฝันของใครหลายๆ คน แต่ทว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะหากไม่มีเงินก้อนก็ต้องทำการยื่นกู้ ซึ่งการที่สถาบันการเงินจะอนุมัติก็ต้องผ่านเงื่อนไขต่างๆ ที่กำหนดไว้มากมาย ทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยกู้บ้านไม่ผ่าน ซึ่งมีปัจจัยหลายๆ อย่างที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตาม ทุกปัญหาย่อมมีทางออก บทความนี้จะมาเผยเคล็ดไม่ลับวิธีขอสินเชื่อให้ผ่านฉลุย

 

4 เหตุผลที่ทำให้ยื่นกู้บ้านไม่บ้าน

4 เหตุผลที่ทำให้ยื่นกู้บ้านไม่บ้าน

เหตุผลในการยื่นกู้บ้านไม่ผ่านของแต่ละคนก็มีแตกต่างกันออกไป ดังนั้นคุณจะต้องศึกษาว่าเงื่อนไขในการอนุมัติสินเชื่อของธนาคารนั้นมีอะไรบ้าง และตรวจสอบตนเองว่าติดปัญหาตรงไหน เพื่อเป็นการการเตรียมพร้อมที่ดีและแก้ไขในสิ่งที่เป็นปัญหาต่อการยื่นกู้ สำหรับใครที่มีคำถามขอสินเชื่อบ้านไม่ผ่านทำไงดี คราวนี้มาดูกันดีกว่าว่า เหตุผลที่ทำให้การขอสินเชื่อธนาคารไม่ผ่านมีอะไรบ้าง

ติดแบล็คลิสต์เครดิตบูโร

เครดิตบูโร หรือบริษัทข้อมูลแห่งชาติ (National Credit Bureau) เป็นบริษัทที่มีหน้าที่จัดเก็บข้อมูลและดูแลบัญชีสินเชื่อต่างๆ รวมถึงการรวบรวมและจัดเก็บประวัติการชำระสินเชื่อ ส่วนคำกล่าวที่ว่า ติดแบล็คลิสต์เครดิตบูโร เป็นเพียงคำเรียกติดปากของคนโดยทั่วไป เพราะบริษัทข้อมูลแห่งชาติไม่ได้หน้าที่ติดแบล็คลิสต์ใคร แต่ทำหน้าที่เก็บข้อมูลธุรกรรมทางการเงินตามความเป็นจริงเท่านั้น สำหรับบุคคลที่มีปัญหากับเครดิตบูโรก็คือบุคคลที่มีภาระหนี้เกินตัว มีประวัติการชำระหนี้ไม่ตรงเวลา ค้างชำระหนี้เป็นจำนวนมาก เป็นต้น ซึ่งข้อมูลเครดิตตรงนี้ที่ทางธนาคารจะนำไปพิจารณาเมื่อคุณไปยื่นกู้ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการขอกู้ว่าจะผ่านหรือไม่ผ่าน

 

ที่มาของรายได้ไม่ชัดเจน

อีกสิ่งปัจจัยที่ทางธนาคารจะนำมาพิจารณาก็คือรายได้ หากคุณเป็นบุคคลที่ประกอบอาชีพอิสระ เปอร์เซ็นต์ในการได้รับการอนุมัติยื่นกู้ก็จะน้อยกว่าคนที่ทำงานประจำ เนื่องจากผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระมักมีรายได้ที่ไม่แน่นอนต่างกับคนที่ทำงานประจำที่มีรายได้สม่ำเสมอและชัดเจน ส่งผลให้คนที่มีอาชีพอิสระการขอสินเชื่อธนาคารมักจะไม่ผ่าน เนื่องจากทางธนาคารไม่อยากรับความเสี่ยงตรงนี้

มีหนี้ที่ต้องผ่อนชำระมากเกินไป

ความสามารถในการผ่อนชำระนับเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะบ่งบอกว่าคุณมีความสามารถทางการเงินเพียงพอหรือเปล่า หากทางธนาคารพิจารณาแล้วว่าคุณมีภาระหนี้สินเยอะอยู่แล้ว อาจจะทำให้รายจ่ายสวนทางกับรายได้ หลายๆ คนมีภาระผ่อนสินค้ามากมาย ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ รถมอเตอร์ไซด์ โทรศัพท์มือถือ เมื่อดูแล้วหากหนี้สินเกิน 40% ของรายได้ต่อเดือน ก็อาจส่งผลต่อการอนุมัติทำให้กู้บ้านไม่ผ่านได้ เพราะมันบ่งบอกว่าไม่มีความสามารถทางการเงินมากพอที่จะรับภาระหนี้สินเพิ่มอีก

คะแนนเครดิตไม่เพียงพอ

คะแนนเครดิต (Credit Scoring) เป็นคะแนนที่ธนาคารให้กับคุณ โดยเกิดจากการเก็บรวบรวมข้อมูลทางการเงินของผู้กู้ แสดงความน่าจะเป็นในการชำระหนี้คืน และประมวลผลออกมาโดย บริษัทข้อมูลเครดิต โดยการเกณฑ์การให้คะแนนจะวัดเป็นระดับตั้งแต่ระดับ AA(ดีมาก)-HH(แย่มาก) ตามลำดับ ซึ่งคะแนนจะบอกถึงระดับความเสี่ยงในการผิดชำระหนี้ของบุคคลนั้นๆ โดยคะแนนต่างๆ มีดังนี้

  • ระดับความเสี่ยง AA คะแนน 753-900
  • ระดับความเสี่ยง BB คะแนน 725-752
  • ระดับความเสี่ยง CC คะแนน 699-724
  • ระดับความเสี่ยง DD คะแนน 681-698
  • ระดับความเสี่ยง EE คะแนน 666-680
  • ระดับความเสี่ยง FF คะแนน 646-665
  • ระดับความเสี่ยง GG คะแนน 616-645
  • ระดับความเสี่ยง HH คะแนน 300-615

 

สิ่งที่ควรรู้ก่อนทำการยื่นกู้ธนาคาร

สิ่งที่ควรรู้ก่อนทำการยื่นกู้ธนาคาร

ในการจะยื่นขอสินเชื่อธนาคารจะต้องมีความรู้ในเรื่องนี้ก่อน เพื่อให้ขั้นตอนและกระบวนการยื่นกู้ไม่ติดขัด ช่วยสร้างความพร้อมให้กับตัวเอง และช่วยวิเคราะห์ความพร้อมและแผนการชำระหนี้ในระยะยาว เพื่อจะได้กู้อย่างสบายใจ ไร้กังวล สิ่งที่ควรรู้ก่อนการกู้ซื้อบ้านต้องเตรียมตัวดังต่อไปนี้

เตรียมเงินสำหรับดาวน์

ถึงแม้จะเป็นการยื่นกู้กับธนาคาร แต่สิ่งที่ต้องเตรียมพร้อมก่อนยื่นกู้ก็คือเงินดาวน์นั่นเอง ดังนั้นควรมีเงินในส่วนนี้ให้พร้อมก่อนวางแผนการขอสินเชื่อธนาคาร เงินดาวน์ที่ต้องเตรียมไว้สำหรับซื้อบ้านจะอยู่ที่ประมาณ 5-20% ของราคาบ้าน ทางที่ดีควรวางแผนเก็บหอมรอมริบ เพื่อใช้เป็นเงินดาวน์ ยิ่งวางเงินดาวน์มากเท่าไรก็ยิ่งช่วยลดภาระและดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายได้มากเท่านั้น

 

ประเมินรายจ่ายต่อเดือนของตัวเอง

ประเมินรายจ่ายต่อเดือนของตัวเอง

คงไม่มีใครอยากมีรายจ่ายหรือหนี้ที่เกินตัวอย่างแน่นอน การประเมินรายจ่ายต่อเดือนจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะมันเป็นตัววัดความสามารถทางการเงินของคุณ ว่ามีกำลังมากพอที่จะผ่อนชำระหนี้ได้หรือไม่ และตรงนี้แหละจะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการวางแผนว่าควรซื้อบ้านในราคาเท่าไร จึงจะเหมาะสมกับรายได้และรายจ่ายของคุณในแต่ละเดือน

หาธนาคารที่ดอกเบี้ยน่าสนใจ

ตัวช่วยที่จะผ่อนแรงในการผ่อนชำระหนี้สินเชื่อคงหนีไม่พ้นเรื่อง “ดอกเบี้ย” ก่อนการยื่นกู้ก็ควรศึกษาว่าแต่ละธนาคารนั้นมีเงื่อนไขในเรื่องดอกเบี้ยอย่างไรบ้าง โดยแนะนำว่าควรศึกษาอย่างละเอียดเพราะสินเชื่อบ้านบางตัวอาจยื่นข้อเสนอบางอย่างที่น่าดึงดูดใจแต่จริงๆ แล้วมีเงื่อนไขบางอย่างที่แอบแฝงอยู่ด้วย ดังนั้นก็เป็นหน้าที่ของคุณที่จะต้องพิจารณาหาธนาคารที่มีดอกเบี้ยน่าสนใจและเหมาะกับเงินในกระเป๋า

 

บอกต่อ! วิธีขอสินเชื่ออย่างไร ให้ผ่านฉลุย

บอกต่อ! วิธีขอสินเชื่ออย่างไร ให้ผ่านฉลุย

การขอสินเชื่อธนาคารไม่ผ่านมันช่างเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ก็บางครั้งคนเราก็มีเป้าหมายในชีวิตที่อยากจะมีบ้านสักหลัง แต่ความฝันก็ต้องมาพังทลาย เมื่อธนาคารพิจารณาไม่อนุมัติสินเชื่อให้ แต่ก็ไม่ต้องกลัวหรือกังวลใจไป ถ้ารู้วิธีขอสินเชื่อให้ผ่าน ไม่ว่าจะขอสินเชื่อเมื่อไรต้องผ่านฉลุยแน่นอน

สร้างเครดิตทางการเงินเพิ่มความน่าเชื่อถือ

อย่างที่ทราบกันไปแล้วว่าการขอกู้นั้น ประวัติเครดิตของคุณจะต้องถูกตรวจสอบและนำไปใช้ในการพิจารณาอนุมัติ ถ้าอยากมีเครดิตทางการเงินที่ดีก็ควรจะชำระหนี้ให้ครบถ้วน ไม่ล่าช้า ไม่มีภาระหนี้เกินตัว นอกจากนี้ก็ควรมีการเดินบัญชีธนาคารเพื่อให้เห็นธุรกรรมเงินผ่านเข้า-ออก สำหรับนำไปเป็นหลักฐานยื่นขอสินเชื่อได้ หากคุณเป็นคนที่มีหนี้ค้างชำระเยอะ มีประวัติการชำระหนี้ล่าช้า แนะนำว่าควรไปจัดการสิ่งเหล่านี้ให้เรียบร้อยก่อน โดยการจ่ายหนี้ที่ค้างชำระให้ครบและตรงเวลา เพื่อเป็นการสร้างประวัติหรือเครดิตทางการเงินที่ดี ช่วยเพิ่มโอกาสการอนุมัติสินเชื่อให้ผ่านได้ง่ายขึ้น

 

รายได้เข้าเป็นประจำ

การมีรายได้เข้าประจำจะเป็นตัวบ่งบอกว่าคุณมีรายรับที่ต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ซึ่งตัวนี้จะเป็นตัวบ่งชี้ว่าคุณมีโอกาสที่จะชำระหนี้ได้อย่างไม่มีปัญหา เนื่องจากมีรายได้เงินเดือนที่แน่นอนและชัดเจน ส่วนคนที่ประกอบอาชีพอิสระหรือฟรีแลนซ์อาจจะติดขัดในเรื่องการอนุมติได้ เพราะรายได้ไม่สม่ำเสมอแต่ก็สามารถแก้ได้ด้วย วิธีการเตรียมเอกสารและหลักฐานการเงินไม่น้อยกว่า 1 ปี อย่างละเอียดเพื่อแสดงให้ธนาคารเห็นว่าคุณมีรายได้จากการทำงานที่สม่ำเสมอและเพียงพอต่อการกู้

บัญชีมีรายรับมากกว่าการถอนออก

บัญชีที่มีรายรับมากกว่าการถอนออกย่อมส่งผลดีต่อการยื่นขอสินเชื่อ เพราะการถอนเงินออกจากบัญชี ผู้ให้กู้จะตีกว่าเป็นรายจ่าย เพราะฉะนั้นควรมีเงินคงเหลือในบัญชีที่คงที่ในแต่ละเดือน ในจุดนี้หากพบว่ามีการถอนออกมากกว่าจำนวนที่ฝากเข้ามา คุณอาจะถูกมองว่ามีการใช้เงินที่ขาดการวางแผนและไม่มีวินัยทางการเงินได้

มีรายจ่ายที่เป็นระบบ

อีกหนึ่งวิธีขอสินเชื่อให้ผ่าน ภายในระยะเวลา 6 เดือนก่อนตัดสินใจขอยื่นกู้ สิ่งที่จำเป็นจะต้องทำคือการ “เดินบัญชีให้สวย” ซึ่งหากคุณมีรายจ่ายที่เป็นระบบ สถาบันการเงินจะพิจารณาว่าคุณเป็นคนที่มีพฤติกรรมทางการเงินที่ดี โดยดูจาก เงินเข้า-ออก พฤติกรรมการถอนเงิน มีเงินเก็บบ้างไหม สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวที่สถาบันการเงินนำไปพิจารณาว่าคูณมีคุณสมบัติที่ดีพอจะได้รับการอนุมัติหรือเปล่า

 

เก็บออมเงินฝาก

เก็บออมเงินฝาก

การมีเงินออมเป็นการบอกถึงตัวตนของผู้กู้ได้เป็นอย่างดี คนที่วางแผนทางการเงินอย่างรอบครอบและมีวินัยจะให้ความสำคัญต่อการออมเงินฝาก ส่งผลให้ดูเป็นคนรู้จักใช้เงิน ไม่สุรุ่ยสุร่าย ถือเป็นการสร้างความน่าเชื่อถืออย่างง่ายๆ ให้กับตัวเอง

สร้างวินัยทางการเงิน

คนที่มีวินัยทางการเงินก็คือคนที่มีความรับผิดชอบ วิธีการสร้างวินัยทางการเงินจะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยากเพราะจริงๆ มันก็ขึ้นอยู่กับใจล้วนๆ เมื่อมีเงินเข้ามาก็ควรที่จะชำระหนี้ที่มีให้ครบและตรงเวลา ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นตัวการันตีว่าคุณเป็นคนที่มีความรับผิดชอบและมีระเบียบวินัยในการใช้เงิน

ปิดหนี้ เคลียร์ให้จบ

การจะยื่นขอสินเชื่อบางทีก็ไม่ต้องรีบร้อน หากมีหนี้สินที่เป็นภาระอยู่ก็จัดการเคลียร์หนี้ให้เรียบร้อยเสียก่อน แล้วจึงค่อยขอสินเชื่อก็ยังไม่สายเกินไป เพราะมันจะช่วยให้ภาระทางการเงินของคุณเบาลง ไม่ต้องกังวลหนี้หลายทาง ทำให้ผ่อนได้อย่างสบายใจมากขึ้น

มีหลักทรัพย์ในการค้ำประกัน

สำหรับใครที่ประเมินตนเองแล้วคิดว่าทางธนาคารคงไม่อนุมัติให้ง่ายๆ แนะนำว่าลองใช้หลักทรัพย์ในการค้ำประกัน เช่นบ้านหรือที่ดิน หรือหาผู้ที่มาช่วยค้ำประกันที่มีเครดิตทางการเงินที่ดีก็จะช่วยให้การขออนุมัติสินเชื่อนั้นง่ายมากขึ้น

 

 

การขอสินเชื่อธนาคารเป็นเรื่องที่ต้องเตรียมความพร้อมให้เป็นอย่างดี เพราะมีขั้นตอนการกู้ซื้อบ้านที่ละเอียดทั้งเรื่องเอกสาร หรือความพร้อมของผู้ขอสินเชื่อเอง หากอยู่ๆ เดินทางไปทำเรื่องโดยไม่เตรียมความพร้อม อาจทำให้กู้บ้านไม่ผ่าน เพราะธนาคารเห็นว่าไม่มีความพร้อม หรือไม่มีความสามารถในการจ่ายงวด ซึ่งเหตุผลที่ทำให้ขอสินเชื่อไม่ผ่านมีด้วยกันหลายเหตุผล ไม่ว่าจะเป็นติดแบล็คลิสต์เครดิตบูโร ที่มาของรายได้ไม่ชัดเจน รวมถึงมีหนี้ที่ต้องผ่อนชำระมากเกินไป หลายคนอาจสงสัยเมื่อขอสินเชื่อบ้านไม่ผ่านทำไงดี ซึ่งวิธีขอสินเชื่อให้ผ่านนั้นสามารถทำได้ง่ายๆ คือต้องเตรียมความพร้อมของบัญชี หรือทำบัญชีให้สวย มีเงินเก็บในบัญชี ปิดหนี้ให้หมด รวมถึงการมีหลักทรัพย์ค้ำประกันก็จะช่วยให้การกู้ผ่านได้ง่ายขึ้น

RELATED ARTICLES