MAIN POINT
- อิฐมวลเบา หรือ AAC คือ อิฐก่อสร้างที่ผลิตจากส่วนผสมหลากหลายชนิด เช่น ปูนซีเมนต์ ปูนขาว ทราย ยิปซัม ผงอะลูมิเนียม น้ำ แล้วนำไปผ่านกระบวนการอัดลมความดันและบ่มด้วยไอน้ำอุณหภูมิสูง ทำให้ได้อิฐที่มีรูพรุนและฟองอากาศภายในโครงสร้าง มีน้ำหนักเบา และเป็นฉนวนกันความร้อนได้ดี
- อิฐมวลเบามีขนาดมาตรฐานอยู่ที่ 20 x 60 ซม. โดยมีความหนาให้เลือกตามลักษณะการใช้งานที่เหมาะสม เช่น ความหนา 7.5 ซม. เหมาะสำหรับผนังกั้นห้อง ผนังห้องนอน ผนังห้องน้ำ ความหนา 10 ซม. เหมาะสำหรับผนังบ้าน ผนังอาคาร ผนังรั้ว และความหนา 15 ซม. เหมาะสำหรับผนังรับน้ำหนัก ผนังกันดิน ผนังโรงงาน
อิฐมวลเบา หนึ่งในวัสดุก่อสร้างที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ผ่านกระบวนการผลิตที่มีมาตรฐาน ทำให้อิฐมีน้ำหนักเบา แข็งแรง ทนทานสูง กันความร้อน กันเสียงได้ดี รวมถึงติดไฟได้ยาก AP Thai จะพามาทำความรู้จักกับอิฐมวลเบากันให้มากขึ้น พร้อมเปรียบเทียบข้อดี ข้อจำกัด และข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจสร้างบ้านด้วยอิฐมวลเบาได้อย่างเหมาะสม
อิฐมวลเบา คืออะไร?

อิฐมวลเบา หรือ AAC (Autoclaved Aerated Concrete) คือ วัสดุอิฐก่อสร้างที่ผลิตจากส่วนผสมหลากหลายชนิด เช่น ปูนซีเมนต์ ปูนขาว ทราย ยิปซัม ผงอะลูมิเนียม น้ำ แล้วนำไปผ่านกระบวนการอัดลมความดันสูง จากนั้นบ่มด้วยไอน้ำอุณหภูมิสูงประมาณ 190-200 องศา ทำให้ได้อิฐที่มีรูพรุนกระจายตัวภายในโครงสร้างและคงรูปได้อย่างถาวร มีน้ำหนักเบา เป็นฉนวนกันความร้อนได้ดี
อิฐมวลเบา มีกี่ประเภท?
โดยทั่วไปแล้วอิฐมวลเบาจะมีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท คือ อิฐมวลเบาที่ไม่ผ่านกระบวนการอบไอน้ำภายใต้ความดันสูง มักมีเนื้อเป็นสีปูนซีเมนต์ และอิฐมวลเบาที่อบไอน้ำภายใต้ความดันสูง ที่มีเนื้อเป็นผลึกสีขาว
1. อิฐมวลเบาที่ไม่ผ่านกระบวนการอบไอน้ำภายใต้ความดันสูง (Non-Autoclaved System)
- ใช้วัสดุเบากว่าแทน เพื่อทำให้อิฐมีน้ำหนักเบา เช่น เม็ดโฟม ขี้เถ้า ขี้เลื่อย ชานอ้อย โดยมีอายุการใช้งานสั้น และอาจเสี่ยงต่อการติดไฟจนเกิดสารพิษได้
- ใช้สารเคมี เพื่อทำให้โครงสร้างภายในมีเนื้อฟู คงรูป โดยมีความแข็งแรงทนทานต่ำ อาจเกิดการหดตัวหรือแตกร้าวได้
2. อิฐมวลเบาที่อบไอน้ำภายใต้ความดันสูง (Autoclaved System)
- แบบ Lime Base คือ ผลิตโดยใช้ปูนขาวเป็นโครงสร้างหลัก โดยอาจควบคุมคุณภาพได้ไม่สม่ำเสมอ เนื่องจากปูนขาวมีคุณสมบัติดูดซึมน้ำมาก
- แบบ Cement Base คือ ผลิตโดยใช้ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์เป็นโครงสร้างหลัก เมื่อเกิดกระบวนการตกผลึก จะทำให้ได้อิฐมวลเบาที่มีมาตรฐาน แข็งแรง ทนทานสูง
ตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติระหว่าง อิฐมวลเบา อิฐมอญ อิฐบล็อก
| คุณสมบัติ | อิฐมวลเบา | อิฐมอญ | อิฐบล็อก |
| วัสดุ | ปูนซีเมนต์ ปูนขาว ทราย ยิปซัม ผงอะลูมิเนียม น้ำ | ดินเหนียวเผาไฟ | ปูนซีเมนต์ ทราย |
| การดูดซึมน้ำ | ดูดซึมน้ำปานกลาง | ดูดซึมน้ำสูง | ดูดซึมน้ำสูง |
| การสะสมความร้อน | ไม่สะสมความร้อน | สะสมความร้อน | ไม่สะสมความร้อน |
| การกันเสียง | 38-45 เดซิเบล | 30-40 เดซิเบล | 20-30 เดซิเบล |
| ค่าใช้จ่าย | ราคาสูงกว่าอิฐแบบอื่น | ราคาถูก | ราคาถูก |
| จุดเด่น | กันความร้อนและกันเสียงได้ดีที่สุด | ทนต่อสภาพอากาศ หาซื้อง่าย | กันความร้อนได้ดี |
อิฐมวลเบา มีกี่ขนาด และควรเลือกแบบไหน?

โดยทั่วไปแล้วอิฐมวลเบา มีขนาดมาตรฐานอยู่ที่ 20 x 60 ซม. โดยมีความหนาให้เลือกแตกต่างกันไปตามลักษณะการใช้งานที่เหมาะสม
- ความหนา 7.5 ซม. เหมาะสำหรับการใช้งานที่ไม่ต้องรับน้ำหนักมาก เช่น ผนังกั้นห้อง ผนังห้องนอน ผนังห้องน้ำ
- ความหนา 10 ซม. เหมาะสำหรับการใช้งานภายนอกอาคารที่ต้องมีการรับน้ำหนัก เช่น ผนังบ้าน ผนังอาคาร ผนังรั้ว
- ความหนา 15 ซม. เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความแข็งแรง ทนทาน รับแรงกระแทกได้สูง เช่น ผนังรับน้ำหนัก ผนังกันดิน ผนังโรงงาน
ข้อดีของอิฐมวลเบา

1. น้ำหนักเบา ลดภาระโครงสร้าง
ด้วยกระบวนการผลิตที่ทำให้อิฐมีน้ำหนักเบากว่าอิฐประเภทอื่น ๆ ทำให้น้ำหนักโดยรวมของอาคารลดลง ช่วยลดภาระการแบกรับโครงสร้างบ้านในระยะยาว ลดโอกาสการเสื่อมสภาพไว ทั้งยังขนส่งและติดตั้งง่าย ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง
2. แข็งแรง ทนทานสูง
อิฐมวลเบาผลิตจากส่วนผสมที่ได้มาตรฐาน ผ่านกระบวนการอัดลมความดัน และอบไอน้ำอุณหภูมิสูง สามารถควบคุมคุณภาพการผลิตได้ดี ทำให้โครงสร้างภายในมีความแข็งแรง ทนทาน รับแรงกระแทกได้ดีในระดับที่เหมาะสมกับงานก่อผนัง
3. กันความร้อนและกันเสียง
ภายในโครงสร้างของอิฐมวลเบามีรูพรุนและฟองอากาศขนาดเล็กจำนวนมาก ช่วยในการระบายความร้อน จึงช่วยประหยัดค่าไฟฟ้า ทั้งยังกันเสียงไม่ให้ลอดผ่านผนังได้ประมาณ 38-45 เดซิเบล สามารถอยู่อาศัยได้แบบเงียบสงบ ไม่มีเสียงรบกวนจากภายนอก
4. ติดไฟยาก
สำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินหรือหากเกิดเหตุเพลิงไหม้ รูพรุนและช่องว่างภายในโครงสร้างของอิฐมวลเบาจะทนทานต่อความร้อนได้ดี ทนไฟยาวนานสูงถึง 4 ชั่วโมง ทำให้ลดความเสี่ยงการติดไฟได้
ข้อจำกัดของอิฐมวลเบา
1. ราคาสูงกว่าอิฐแบบอื่น
อิฐมวลเบามีการใช้วัสดุหลากหลายชนิดและกระบวนการผลิตที่ซับซ้อน รวมถึงต้องควบคุมคุณภาพให้ได้มาตรฐานสูง จึงทำให้อิฐมวลเบามีราคาสูงกว่าอิฐรูปแบบอื่น ๆ เช่น อิฐบล็อก อิฐมอญ
2. ต้องใช้ปูนฉาบอิฐมวลเบาโดยเฉพาะ
อิฐมวลเบามีคุณสมบัติที่แตกต่างจากอิฐทั่วไป ในกระบวนการก่อสร้างจึงจำเป็นต้องใช้ปูนฉาบอิฐมวลเบาโดยเฉพาะ เพื่อให้โครงสร้างสามารถยึดเกาะกันได้ดี แข็งแรงทนทาน ลดความเสี่ยงที่อาจเกิดการแตกร้าวภายหลัง
3. ปรับแต่งได้ไม่มาก
โดยปกติแล้วอิฐมวลเบาจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ จึงเหมาะสำหรับการก่อผนัง การนำไปปรับแต่งรูปแบบหรือสร้างรายละเอียดที่ซับซ้อนต่าง ๆ เพิ่มเติม อาจทำได้ยากกว่าการใช้อิฐแบบอื่น
ตารางสรุปการเปรียบเทียบข้อดี - ข้อจำกัดของอิฐมวลเบา
| ข้อดีของอิฐมวลเบา | ข้อจำกัดของอิฐมวลเบา |
| น้ำหนักเบา ลดภาระโครงสร้าง ทำให้น้ำหนักโดยรวมของอาคารลดลง | ราคาสูง เนื่องจากกระบวนการผลิตซับซ้อน ต้องควบคุมคุณภาพให้ได้มาตรฐานสูง |
| แข็งแรง ทนทานสูง เพราะผลิตจากส่วนผสมที่ได้มาตรฐาน รับแรงกระแทกได้ดี | ต้องใช้ปูนฉาบอิฐมวลเบาโดยเฉพาะ เพื่อการยึดเกาะที่ดี ลดการแตกร้าวภายหลัง และใช้งานได้ยาวนาน |
| กันความร้อนและกันเสียง มีรูพรุนและฟองอากาศช่วยระบายความร้อน และกันเสียงได้ 38-45 เดซิเบล | ปรับแต่งได้ไม่มาก อิฐมวลเบามีขนาดใหญ่ นำไปปรับแต่งเพิ่มเติมได้ยากกว่าอิฐแบบอื่น |
| ติดไฟยาก เพราะช่องว่างภายในไม่ดูดซับความร้อนเข้าสู่ตัวอิฐ ทนทานต่อไฟได้ยาวนานสูงถึง 4 ชั่วโมง | - |
รวมคำถามน่ารู้เกี่ยวกับผนัง อิฐมวลเบา

1. ก่อผนังอิฐมวลเบา 1 ตารางเมตร ต้องใช้กี่ก้อน?
การก่อผนังอิฐมวลเบาบนพื้นที่ 1 ตารางเมตร ต้องใช้อิฐมวลเบาประมาณ 8.33 ก้อน ทั้งนี้ควรเผื่ออิฐประมาณ 5-10% สำหรับกรณีเกิดความเสียหายหรือต้องการตัดแต่งเพิ่มเติม
วิธีการคำนวณ
- พื้นที่ 1 ตารางเมตร มีค่าเท่ากับ 10,000 ตารางเซนติเมตร
- ใช้อิฐมวลเบาขนาดมาตรฐาน คือ กว้าง 20 x ยาว 60 x หนา 7.5 ซม.
- พื้นที่หน้าตัดของอิฐมวลเบา = กว้าง x ยาว = 20 x 60 = 1,200 ตารางเซนติเมตร
- การคำนวณหาจำนวนอิฐมวลเบาที่ต้องใช้ คือ พื้นที่ 1 ตารางเมตร / พื้นที่หน้าตัดของอิฐมวลเบา = 10,000 / 1,200 = 8.33 ก้อน
2. อิฐมวลเบา ราคาก้อนละเท่าไหร่?
ราคาของอิฐมวลเบาจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับขนาดและยี่ห้อ โดยทั่วไปขนาด 7 ซม. ราคาประมาณก้อนละ 17-21 บาท ไปจนถึงขนาด 20 ซม. ราคาประมาณก้อนละ 52-60 บาท
3. อิฐมวลเบารับน้ำหนักได้ไหม?
การก่อสร้างด้วยอิฐมวลเบาสามารถรับน้ำหนักได้ โดยปกติแล้วรับน้ำหนักได้มากถึง 35 กิโลกรัมต่อพื้นที่ 1 ตารางเซนติเมตร
4. ผนังอิฐมวลเบาเหมาะกับห้องน้ำไหม?
ผนังอิฐมวลเบาสามารถใช้งานในห้องน้ำได้ แต่ด้วยคุณสมบัติที่มีการดูดซึมน้ำ จึงควรเลือกอิฐมวลเบาที่ผ่านกระบวนการผลิตอย่างมีมาตรฐานและติดตั้งอย่างถูกต้องโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาน้ำรั่วซึม
5. ต้องใช้ปูนก่อพิเศษกับอิฐมวลเบาหรือไม่?
ในกระบวนการก่อสร้าง จำเป็นต้องใช้ปูนฉาบอิฐมวลเบาโดยเฉพาะ เพื่อให้ผนังยึดติดกันได้ดี ไม่มีรอยแตกร้าว แข็งแรง ทนทาน ลดความเสี่ยงการเกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมาในอนาคต
เติมความรู้เกี่ยวกับผนังบ้าน จาก AP Thai ได้ที่นี่!
- บ้านผนัง Precast (พรีแคส) เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียแบบชัด ๆ
- รู้จัก ผนังเบา วัสดุกั้นห้องยอดฮิต มีกี่แบบและมีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง
- เช็กรอยร้าวผนังบ้านและอาคาร แบบไหนอันตราย พร้อมวิธีซ่อมแซม
อิฐมวลเบา วัสดุยอดนิยมสำหรับการสร้างบ้าน
อิฐมวลเบา วัสดุก่อสร้างที่มีคุณสมบัติเด่นด้านความเบา ความปลอดภัย ผลิตจากปูนซีเมนต์ ปูนขาว ทราย ที่ผ่านกระบวนการอบไอน้ำแรงดันสูงอย่างมีมาตรฐาน ทำให้มีโครงสร้างภายในที่แข็งแรง กันความร้อนและเสียงได้ดี ไม่ติดไฟ และเป็นที่นิยมสำหรับการสร้างบ้านในปัจจุบัน
เอพีไทยแลนด์ ช่วยเติมเต็มความหมายของชีวิต
เลือกเป็นเจ้าของโครงการบ้านจาก เอพีไทยแลนด์ เพื่อสร้างชีวิตดี ๆ บนพื้นที่ความสุขที่เราเลือกเอง ไม่ว่าจะเป็น โครงการบ้านเดี่ยวพื้นที่กว้างขวางเป็นส่วนตัว ทาวน์โฮมดีไซน์สวยหรือบ้านแฝดฟังก์ชันใหญ่ คอนโดมิเนียมทำเลติดรถไฟฟ้าเดินทางง่าย และโฮมออฟฟิศฟังก์ชันเจ๋งที่รองรับทุกธุรกิจ สามารถเลือกได้ตามต้องการ เพราะ “บ้าน” ไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย
EMPOWER LIVING อยู่ .. เพื่อทุกความหมายของคุณ









