MAIN POINT
- ที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charger) มักต้องการกำลังไฟสูงถึง 32 แอมแปร์ ขณะที่บ้านทั่วไปใช้มิเตอร์แบบ Single-Phase 15(45)A ซึ่งอาจไม่เพียงพอ จึงควรตรวจสอบขนาดมิเตอร์ที่ใช้อยู่ และหากไม่รองรับควรแจ้งการไฟฟ้านครหลวงหรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เพื่อขอเพิ่มขนาดเป็น Single-Phase 30(100)A หรือ 3-Phase 15(45)A ให้เหมาะกับการใช้งาน
- การติดตั้งที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้านทำได้ง่าย เริ่มจากตรวจสอบมิเตอร์ไฟฟ้าและสายไฟเมนให้รองรับโหลดการชาร์จ จากนั้นเตรียมตู้ควบคุมไฟฟ้า (MCB) และติดตั้งอุปกรณ์ตัดไฟรั่ว (RCCB) เพื่อความปลอดภัย เลือกหัวชาร์จให้ตรงกับรถ วางตำแหน่งติดตั้งให้เหมาะสม และเลือกบริษัทติดตั้งที่เชื่อถือได้
เช็กลิสต์ก่อนการติดตั้งที่ชาร์จรถไฟฟ้า (EV Charger) ที่บ้าน
รถยนต์ไฟฟ้า (EV) หนึ่งในเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์คนยุคใหม่ ทั้งประหยัดพลังงาน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สำหรับใครที่เป็นเจ้าของรถ EV หรือกำลังวางแผนซื้อเร็ว ๆ นี้ และอยากติดตั้งที่ชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้าน (EV Charger) ให้พร้อมใช้งานได้อย่างปลอดภัย ห้ามเลื่อนผ่าน 7 เช็กลิสต์ก่อนติดตั้ง จาก AP Thai พร้อมตอบคำถามน่ารู้ ครบจบในที่เดียว
EV Charger คืออะไร สามารถติดตั้งที่บ้านได้ไหม

EV Charger หรือที่ชาร์จรถไฟฟ้า คือ อุปกรณ์ที่ใช้จ่ายพลังงานไฟฟ้าเข้าสู่แบตเตอรี่รถยนต์สำหรับรถ EV มีให้เลือกหลายรูปแบบและขนาด รองรับแรงดันไฟฟ้าและความเร็วในการชาร์จที่หลากหลาย
แม้ปัจจุบันจะมีสถานีชาร์จไฟฟ้าให้บริการอยู่มากมายจากผู้ให้บริการหลายราย แต่เจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่มักเลือกติดตั้งที่ชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้าน เพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย ประหยัดค่าใช้จ่าย และสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ตามต้องการ เพิ่มความมั่นใจให้ทุกการเดินทาง
เช็กลิสต์ก่อนการติดตั้งที่ชาร์จรถไฟฟ้า (EV Charger) ที่บ้าน
| เช็กลิสต์ติดตั้ง EV Charger | รายละเอียด |
| ตรวจสอบมิเตอร์ไฟฟ้าบ้าน | มิเตอร์ต้องเป็น Single-Phase 30(100)A หรือ 3-Phase 15(45)A ที่รองรับกำลังไฟฟ้า สูง 32 แอมแปร์ เพื่อป้องกันไฟดับจาก Overload |
| ตรวจสอบหรือติดตั้งตู้ควบคุมไฟฟ้า (MCB) | สายเมนไฟควรมีขนาด 25 ตร.มม. ขึ้นไป หากไม่แน่ใจให้ช่างไฟตรวจสอบ |
| ติดตั้งระบบป้องกันไฟรั่ว (RCCB) | ตรวจสอบหรือติดตั้ง Miniature Circuit Breaker (MCB) ขนาด 1P 16A เพื่อแยกวงจรเฉพาะ EV Charger |
| เลือกหัวชาร์จให้ตรงกับรถ EV ที่ใช้ | แนะนำติดตั้ง RCCB Type B เพื่อป้องกันไฟฟ้ารั่ว |
| เลือกบริษัทติดตั้งที่เชื่อถือได้ | เลือกหัวชาร์จ AC หรือ DC ตามความเร็วและงบประมาณ เช่น Normal (12-16 ชม.), Wall Box (4-7 ชม.) หรือ DC (20-60 นาที) |
| เลือกบริษัทติดตั้งที่เชื่อถือได้ | พิจารณาจากผลงาน รีวิว ใบอนุญาต บริการหลังการขาย และเปรียบเทียบราคา |
1. ตรวจสอบมิเตอร์ไฟฟ้าที่บ้าน

ก่อนติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้าน ควรเริ่มจากการตรวจสอบขนาดมิเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้อยู่ โดยสามารถดูได้จากคำว่า “Phase” บนตัวมิเตอร์ เนื่องจากเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่มักต้องการกำลังไฟสูงถึง 32 แอมแปร์ ขณะที่บ้านทั่วไปมักใช้มิเตอร์แบบ Single-Phase ขนาด 15(45)A ซึ่งอาจไม่เพียงพอ หากมีการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าพร้อมกับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ภายในบ้าน อาจทำให้เกิดภาวะโหลดเกิน (Overload) ส่งผลให้เมนเบรกเกอร์ตัดวงจร และไฟฟ้าภายในบ้านดับกะทันหันได้

ขอบคุณข้อมูล https://www.facebook.com/photo/?fbid=4681307238635948&set=a.346867302079985
ดังนั้นบ้านที่ต้องการติดตั้ง EV Charger ควรมีมิเตอร์ไฟฟ้าและระบบสายเมนที่สามารถรองรับโหลดรวมได้อย่างปลอดภัยและเสถียร โดยขนาดมิเตอร์ที่แนะนำ คือ Single-Phase ขนาด 30(100)A หรือ 3-Phase ขนาด 15(45)A หากตรวจสอบมิเตอร์ไฟฟ้าบ้านแล้วมีขนาดไม่เพียงพออาจต้องทำการแจ้งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือการไฟฟ้านครหลวง เพื่อขอเปลี่ยนขนาดมิเตอร์ไฟฟ้าก่อน
การเปลี่ยนมิเตอร์ TOU สำหรับชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้าน
สำหรับผู้ใช้งานรถไฟฟ้าที่อยากประหยัดค่าไฟฟ้าที่บ้านควรรู้จักมิเตอร์ TOU เพราะปกติ หากติดตั้งที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบใช้มิเตอร์ไฟฟ้าทั่วไป จะถูกคิดค่าไฟตามอัตราก้าวหน้า (Progressive Rate) ตลอด 24 ชั่วโมง ประมาณ 4.9 บาท/หน่วย (ข้อมูลเดือน ม.ค.-เม.ย. 2568)
แต่หากเปลี่ยนเป็น มิเตอร์ TOU (Time of Use) ระบบจะคำนวณค่าไฟฟ้าแยกตามช่วงเวลา
- On-Peak (ช่วงพีค): ค่าไฟอยู่ที่ 6.62 บาท/หน่วย
- Off-Peak (ช่วงนอกพีค): ค่าไฟอยู่ที่ 3.24 บาท/หน่วย
หากเจ้าของบ้านชาร์จรถในช่วง Off-Peak ซึ่งเป็นช่วงที่ความต้องการใช้ไฟฟ้าน้อย เช่น กลางคืนถึงเช้ามืด จะช่วยลดค่าไฟได้มากกว่า 40% เมื่อเทียบกับเรทปกติ
2. ตรวจสอบขนาดสายไฟเมนเข้าบ้าน

หลังจากตรวจสอบขนาดมิเตอร์ไฟฟ้าแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการตรวจเช็กขนาดสายไฟเมน ที่เชื่อมต่อจากสายไฟหลักของการไฟฟ้าเข้าสู่ตู้ควบคุมภายในบ้าน โดยสามารถดูขนาดได้จากข้อมูลที่ระบุบนสายไฟฟ้า ควรมีขนาดอย่างน้อย 25 ตารางมิลลิเมตร เพื่อรองรับการโหลดจากเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า หากไม่แน่ใจหรืออ่านข้อมูลบนสายไม่ชัดเจน แนะนำให้ช่างไฟฟ้าเข้าตรวจสอบ เพื่อความปลอดภัยและออกแบบได้เหมาะสมกับระบบไฟในบ้าน
3. ตรวจสอบหรือติดตั้งตู้ควบคุมไฟฟ้า Miniature Circuit Breaker (MCB)

หลังจากนั้นควรตรวจสอบตู้ควบคุมไฟฟ้า (MDB) ซึ่งโดยปกติจะมีช่องสำหรับ ติดตั้ง Miniature Circuit Breaker (MCB) ขนาด 1P 16A โดยควรแยกวงจรจ่ายไฟฟ้า เฉพาะสำหรับ EV Charger ออกจากวงจรไฟฟ้าภายในบ้าน เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
4. ติดตั้งระบบป้องกันกระแสเกินและไฟฟ้ารั่ว (RCCB)

นอกจากติดตั้ง Miniature Circuit Breaker (MCB) แล้วการติดตั้ง EV Charger ที่บ้าน ควรเสริมด้วย ระบบป้องกันกระแสเกินและไฟฟ้ารั่ว Residual Current Circuit Breaker (RCCB) โดยแนะนำใช้ RCCB Type B เหมาะกับระบบชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้าน และช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับระบบไฟภายในบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5. เลือกหัวชาร์จ EV ให้ตรงรุ่นรถยนต์ไฟฟ้า

การเลือกหัวชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charger) ควรเลือกให้เหมาะกับรูปแบบการใช้งาน เพราะแต่ละประเภทมีความเร็วในการชาร์จ ความสะดวก และค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกัน
1. หัวชาร์จแบบธรรมดา (Normal Charger): ระยะเวลาชาร์จ 12-16 ชั่วโมง
หัวชาร์จแบบธรรมดา เป็นหัวชาร์จที่ใช้ไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) จากเต้ารับภายในบ้านโดยตรง ผ่านหัวปลั๊กเฉพาะ โดยไฟฟ้าจะถูกแปลงเป็นกระแสตรงผ่าน On-board Charger ภายในตัวรถ ใช้เวลาชาร์จค่อนข้างนาน ประมาณ 12-16 ชั่วโมง เหมาะกับการชาร์จข้ามคืนหรือในวันที่ไม่ได้ใช้งานเร่งด่วน
2. หัวชาร์จแบบ Wall Box (Double Speed Charger): ระยะเวลาชาร์จ 4-7 ชั่วโมง
หัวชาร์จแบบ Wall Box เป็นหัวชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) คล้ายแบบธรรมดา แต่ปลอดภัยและรวดเร็วกว่า ใช้เวลาเฉลี่ยในการชาร์จประมาณ 4-7 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับขนาด Wall Box และความจุแบตเตอรี่ เหมาะกับการชาร์จที่บ้านเป็นประจำ
3. หัวชาร์จแบบเร็ว (Quick Charger): ระยะเวลาชาร์จ 20 - 60 นาที
หัวชาร์จแบบเร็ว เป็นหัวชาร์จที่ใช้ไฟฟ้ากระแสตรง (DC) เข้าสู่แบตเตอรี่โดยตรง ไม่ต้องผ่าน On-board Charger ทำให้ชาร์จได้รวดเร็วกว่าแบบอื่น สามารถชาร์จได้ถึง 80% ภายใน 20-60 นาที แล้วแต่รุ่นรถและกำลังไฟ เหมาะกับการชาร์จในช่วงเร่งด่วน เช่น ระหว่างเดินทางไกล แต่ไม่ควรใช้บ่อยเกินไป เพราะอาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว และค่าใช้จ่ายในการติดตั้งสูง
6. เลือกตำแหน่งในการติดตั้งเครื่องชาร์จ

การติดตั้งเครื่องชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้านควรเลือกตำแหน่งที่เหมาะสม โดยแนะนำให้ติดตั้งในที่ร่มหรือใต้หลังคา เพื่อยืดอายุการใช้งาน รวมถึงเลือกตำแหน่งที่ไม่ไกลจากตู้ควบคุมไฟฟ้า และเว้นระยะห่างจากจุดจอดรถ ไม่เกิน 5 เมตร ซึ่งเป็นความยาวมาตรฐานของสายชาร์จรถ EV เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาสายไม่ถึงหรือสายตึงเกินไป
7. เลือกบริษัทติดตั้งที่ชาร์จรถ EV ที่เชื่อถือได้

- ตรวจสอบประสบการณ์และผลงาน: เลือกบริษัทที่มีทีมวิศวกรหรือช่างผู้เชี่ยวชาญด้านการติดตั้ง EV Charger โดยเฉพาะ รวมถึงมีผลงานและรีวิวแนะนำจากผู้ใช้งานจริง
- ตรวจสอบใบอนุญาตและมาตรฐาน: บริษัทควรมีใบอนุญาตประกอบกิจการที่เกี่ยวข้อง และได้รับการรับรองตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านระบบไฟฟ้า
- พิจารณาบริการหลังการขาย: ควรเลือกบริษัทที่มีบริการหลังการขายครบ เช่น การรับประกันตัวเครื่องและงานติดตั้ง บริการตรวจเช็กระบบและพร้อมให้คำปรึกษาเมื่อมีข้อสงสัยหรือเกิดปัญหา
- เปรียบเทียบราคาและข้อเสนอ: แนะนำให้สอบถามและเปรียบเทียบข้อเสนอจากหลายบริษัท เพื่อให้ได้ราคาที่เหมาะสม พร้อมเงื่อนไขที่คุ้มค่าและตรงกับความต้องการที่สุด
รวมคำถามน่ารู้เกี่ยวกับการติดตั้งที่ชาร์จรถไฟฟ้า (EV Charger) ที่บ้าน

1. ติดตั้งที่ชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้านมีค่าใช้จ่ายเท่าไร?
ค่าติดตั้งที่ชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้าน โดยหลักมีค่าใช้จ่าย 3 ส่วน คือ ค่าเครื่อง EV Charger, ค่าเพิ่มขนาดมิเตอร์ไฟฟ้าในบ้าน และค่าติดตั้งระบบไฟฟ้า
- ค่าเครื่อง EV Charger: ประมาณ 15,000-100,000 บาท ขึ้นอยู่กับกำลังไฟฟ้าและยี่ห้อ
- ค่าเพิ่มขนาดมิเตอร์ไฟฟ้าในบ้าน: ขึ้นอยู่กับพื้นที่
- ในเขต กทม. - นนทบุรี - สมุทรปราการ ค่าตรวจสอบ 700-2,500 บาท หากต้องการใช้ระบบ TOU (Time of Use) ต้องเพิ่ม 6,640-7,350 บาท โดยติดต่อผ่านการไฟฟ้านครหลวง (MEA)
- นอกเขต (ต่างจังหวัด) ค่าตรวจสอบ 700-1,500 บาท หากต้องการใช้ระบบ TOU ต้องเพิ่ม 3,740-5,340 บาท โดยติดต่อผ่านการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA)
- ค่าติดตั้งระบบไฟฟ้า: ประมาณ 10,000-20,000 บาท จากค่าเดินสายเมน วางระบบไฟใหม่ และติดตั้งอุปกรณ์
2. ติดตั้งที่ชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้านต้องขออนุญาตไหม?
การขออนุญาตติดตั้ง EV Charger ที่บ้าน ขึ้นอยู่กับขนาดมิเตอร์ไฟฟ้าของบ้าน
- ไม่ต้องขออนุญาตหากมิเตอร์มีขนาดตั้งแต่ 30(100)A ขึ้นไป (1 เฟส) หรือ 15(45)A ขึ้นไป (3 เฟส) ผู้ที่ต้องการติดที่ชาร์รถไฟฟ้าที่บ้านสามารถติดตั้งได้เลย แต่ควรตรวจสอบว่าโหลดไฟฟ้ารวมในบ้านเพียงพอหรือไม่
- ต้องขออนุญาตหากมิเตอร์มีขนาดต่ำกว่า 30(100)A เช่น 5(15)A หรือ 15(45)A อาจต้องขออนุญาตการไฟฟ้าก่อนติดตั้ง เพราะมิเตอร์เดิมอาจจ่ายกระแสไฟฟ้าให้ EV Charger ไม่เพียงพอ
3. การติดตั้งที่ชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้านต้องแจ้งการไฟฟ้าไหม?
ต้องแจ้งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคหรือการไฟฟ้านครหลวง เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้ามา ประเมินและตรวจสอบความพร้อมของระบบไฟฟ้าภายในบ้าน
4. ขอเพิ่มมิเตอร์ไฟฟ้าสำหรับติดตั้งที่ชาร์จรถไฟฟ้าได้อย่างไร?

การขอเพิ่มมิเตอร์ไฟฟ้าสำหรับติดตั้งที่ชาร์จรถไฟฟ้าสามารถทำได้ง่ายใน 2 ขั้นตอน เพียงเตรียมเอกสาร และติดต่อยื่นเรื่องกับการไฟฟ้า
ขั้นตอนที่ 1: เตรียมเอกสารจำเป็นให้พร้อม
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- เอกสารแสดงความเกี่ยวข้อง (ถ้าไม่ใช่เจ้าบ้าน)
- บิลค่าไฟล่าสุด
- ใบคำขอใช้ไฟฟ้า (ดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ MEA)
- ใบมอบอำนาจ (ถ้ามีผู้ดำเนินการแทน)
ขั้นตอนที่ 2: ติดต่อการไฟฟ้าหรือยื่นเรื่องทางออนไลน์
- พื้นที่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ติดต่อที่เขตการไฟฟ้านครหลวง (MEA) ใกล้บ้าน หรือ ดำเนินเรื่องออนไลน์ได้ที่ https://eservice.mea.or.th/measy
- พื้นที่ต่างจังหวัดทั่วประเทศ ติดต่อที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ในพื้นที่ หรือดำเนินเรื่องออนไลน์ได้ที่ https://eservice.pea.co.th/
ติดตั้ง EV Charger ที่บ้าน สะดวกและมั่นใจก่อนออกเดินทาง
นอกจากการดูแลความสวยงามและการขับขี่อย่างทะนุถนอม การใส่ใจเรื่องพลังงาน อย่างการติดตั้งที่ชาร์จรถไฟฟ้าหรือ EV Charger ไว้ที่บ้าน ก็เป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เพราะช่วยลดความกังวลเรื่องเวลา ค่าใช้จ่าย และยังช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ พร้อมถนอมรถยนต์ EV ที่คุณรัก เพิ่มความมั่นใจในทุกครั้งที่เดินทาง
รวมสาระดี ๆ เรื่องพลังงานไฟฟ้า จาก AP Thai
- ขอมิเตอร์ไฟฟ้า ต้องทำอย่างไร ใช้เอกสารอะไรบ้าง?
- โซลาร์เซลล์คืออะไร เลือกแผงแบบไหนดี พร้อมสิ่งควรรู้ก่อนติดตั้ง
- วิธีประหยัดไฟในบ้านช่วงหน้าร้อนแบบง่าย ๆ แต่ได้ผล
เอพีไทยแลนด์ ช่วยเติมเต็มความหมายของชีวิต
เลือกเป็นเจ้าของโครงการบ้านจาก เอพีไทยแลนด์ เพื่อสร้างชีวิตดี ๆ บนพื้นที่ความสุขที่เราเลือกเอง ไม่ว่าจะเป็น โครงการบ้านเดี่ยวพื้นที่กว้างขวางเป็นส่วนตัว ทาวน์โฮมดีไซน์สวยหรือบ้านแฝดฟังก์ชันใหญ่ คอนโดมิเนียมทำเลติดรถไฟฟ้าเดินทางง่าย และโฮมออฟฟิศฟังก์ชันเจ๋งที่รองรับทุกธุรกิจ สามารถเลือกได้ตามต้องการ เพราะ “บ้าน” ไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย
EMPOWER LIVING อยู่ .. เพื่อทุกความหมายของคุณ









