MAIN POINT
- ข้อควรรู้ก่อนการปลูกต้นไม้ เริ่มจากการกำหนดพื้นที่ให้เหมาะสม เลือกต้นไม้ให้สอดคล้องกับพื้นที่ ทำความเข้าใจลักษณะของต้นไม้ที่เลือก รวมถึงพิจารณากฎหมายหรือข้อจำกัดของพื้นที่ เพื่อให้การปลูกต้นไม้เป็นเรื่องง่าย ให้ร่มเงากับบ้านได้ร่มรื่น
- วิธีปลูกต้นไม้แบบง่าย ๆ แบ่งเป็น 2 วิธี คือ การปลูกต้นไม้ในกระถาง เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นที่จำกัด เช่น คอนโด ระเบียง หรือมุมเล็ก ๆ ภายในบ้าน ส่วนการปลูกต้นไม้ลงดิน เหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่สวนหรือพื้นที่โล่ง สามารถปลูกไม้ยืนต้นหรือไม้ประดับขนาดใหญ่ได้
วิธีปลูกต้นไม้แบบง่าย ๆ พร้อมเคล็ดลับดูแลบำรุงรักษาให้งอกงาม
การปลูกต้นไม้เป็นวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยเติมชีวิตชีวาให้บ้านดูร่มรื่นและน่าอยู่ยิ่งขึ้น แถมยังเป็นงานอดิเรกที่ได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง บทความนี้ AP Thai จะพาไปรู้จักทุกขั้นตอน ตั้งแต่ข้อควรรู้ก่อนเลือกต้นไม้ อุปกรณ์และวัสดุที่จำเป็น วิธีปลูกต้นไม้แบบง่าย ๆ สำหรับมือใหม่ ไปจนถึงเคล็ดลับดูแลให้ต้นไม้งอกงาม ทั้งปลูกต้นไม้ในกระถางหรือปลูกลงดิน ใคร ๆ ก็ทำได้ พร้อมเปลี่ยนมุมบ้านให้สดชื่นและน่าอยู่ยิ่งขึ้น
3 ข้อควรรู้ก่อนเลือกต้นไม้มาปลูก
1. กำหนดพื้นที่ที่จะปลูกต้นไม้ พร้อมเลือกต้นไม้ให้เหมาะสม
ก่อนเลือกต้นไม้ให้เหมาะกับพื้นที่ ควรเริ่มจากการกำหนดพื้นที่ให้ชัดเจนว่า จะปลูกต้นไม้บริเวณใด โดยพิจารณาจากประเภทของพื้นที่ ลักษณะทางกายภาพ เพื่อให้ต้นไม้เจริญเติบโตได้ดี
- พื้นที่โล่งกลางแจ้ง ไม่มีอาคาร รับแสงแดดเต็มวัน: พื้นที่โล่งกว้างบริเวณกลางแจ้งที่รับแดดโดยตรง เหมาะกับต้นไม้ที่สามารถทนแดดจัดและทนฝนได้ อย่างประดู่บ้าน โกสน ไทรเกาหลี ชบา และมันปู
- พื้นที่ในสวน มีอาคารใกล้เคียงหรือล้อมรอบ สัมผัสแดดรำไร: ต้องพิจารณาขนาดพื้นที่ ทิศทางแดด และการได้รับแดดต่อวัน เหมาะกับต้นไม้ที่ไม่ต้องการแดดมาก อย่างเสลา แคนา พลูด่าง เศรษฐีเรือนใน เดหลี หรือเฟิร์นชนิดต่าง ๆ
- พื้นที่บนอาคาร: เช่น ดาดฟ้า ระเบียง ผนัง คอร์ตในบ้าน หรือสวนแนวตั้ง ต้องพิจารณาความแข็งแรงของโครงสร้าง การกันซึมจากความชื้น การระบายน้ำ และการดูแลรักษาเอาใจใส่เป็นพิเศษ รวมถึงเลือกพันธุ์ไม้ที่ไม่แผ่ขยายทำลายโครงสร้าง อย่างตีนตุ๊กแก หัวใจแนบ และเดฟเขียว
2. ทำความเข้าใจกับลักษณะต้นไม้
อีกหนึ่งข้อควรรู้ก่อนปลูกต้นไม้ คือ ควรทำความรู้จักลักษณะพื้นฐานของต้นไม้ชนิดนั้น ๆ ให้ดีก่อน เพราะต้นไม้แต่ละชนิดมีลักษณะและการดูแลไม่เหมือนกัน ทั้งเรื่องของแสงแดด บางต้นชอบแดดจัด บางต้นชอบแดดรำไร รวมถึงปริมาณน้ำและปุ๋ยที่ต้องการก็ต่างกันออกไป
นอกจากนี้ ควรศึกษาด้วยว่าต้นไม้โตเร็วหรือช้า โตเต็มที่จะสูงประมาณเท่าไร ออกดอกหรือผลในฤดูใด ผลัดใบหรือไม่ และมีโรคหรือแมลงศัตรูพืชอะไรที่มักพบบ่อย การเข้าใจธรรมชาติของต้นไม้ก่อนตัดสินใจปลูกต้นไม้จะช่วยให้วางแผนดูแลได้ง่ายขึ้น ปลูกแล้วเจริญงอกงาม อยู่ได้นาน และไม่กลายเป็นภาระในระยะยาว
3. ข้อจำกัดเกี่ยวกับการปลูกต้นไม้
ต้นไม้บางชนิดไม่ควรปลูกใกล้อาคารหรือโครงสร้าง เพราะอาจก่อให้เกิดความเสียหายตามมาในระยะยาว เช่น รากชอนไชทำให้พื้นหรือฐานรากทรุด พุ่มไม้บดบังแสง หรือกิ่งก้านพาดสายไฟฟ้า โดยเฉพาะต้นไม้ที่มีรากแผ่กว้างหรือทรงพุ่มใหญ่ เช่น หูกระจง จามจุรี หรือหางนกยูงฝรั่ง ควรปลูกให้ห่างจากอาคารอย่างน้อย 5 เมตร รวมถึงต้องเว้นระยะห่างจากแนวรั้วหรือทางสาธารณะ ไม่น้อยกว่า 2 เมตร เพื่อไม่ให้เกิดการรุกล้ำหรือเป็นอันตรายต่อผู้อื่น
ในทางกฎหมาย หากต้นไม้ที่ปลูกมีส่วนใดส่วนหนึ่ง เช่น กิ่งหรือราก ล้ำเข้าไปยังเขตของเพื่อนบ้าน หรือพื้นที่สาธารณะ เจ้าของที่ดินสามารถดำเนินการได้ตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1347 ซึ่งระบุว่า เจ้าของที่ดินมีสิทธิ์ตัดรากไม้ที่รุกล้ำเข้ามาในที่ดินของตนได้ทันทีโดยไม่ต้องแจ้งเจ้าของต้นไม้ แต่หากเป็นกิ่งไม้ ต้องแจ้งให้เจ้าของต้นไม้ตัดภายในเวลาอันสมควรก่อน หากเจ้าของไม่ดำเนินการ เจ้าของที่ดินสามารถตัดกิ่งไม้ที่รุกล้ำเข้ามาได้เอง
ดังนั้น อย่าลืมพิจารณาตำแหน่งปลูก ระยะรั้ว และการเจริญเติบโตในอนาคตก่อนตัดสินใจเลือกต้นไม้มาปลูก เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมายและรักษาความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านรอบข้าง
อุปกรณ์สำหรับใช้ปลูกต้นไม้
- ถุงมือทำสวน: ถุงมือที่ทำจากผ้า ผ้ายาง หรือยางพารา บางรุ่นมีจุดกันลื่นหรือกันหนามสำหรับป้องกันมือจากดิน หนาม และสิ่งสกปรก ทำให้ขุดหรือพรวนดินได้สบายมือมากขึ้น
- กรรไกรตัดแต่งกิ่งไม้: กรรไกรแบบใบมีดสั้น ขนาดพอดีมือ น้ำหนักเบา มีสปริงช่วยผ่อนแรง สำหรับตัดใบ กิ่งเล็ก หรือดอกไม้ ช่วยให้พุ่มสวยและกระตุ้นการเจริญเติบโต
- กรรไกรตัดกิ่งแบบด้ามยาว: กรรไกรด้ามจับยาว แข็งแรง มีใบมีดใหญ่กว่ากรรไกรทั่วไป สำหรับตัดกิ่งไม้ขนาดกลาง-ใหญ่ หรือตัดในที่สูงโดยไม่ต้องใช้บันได
- ส้อมพรวนดิน: สำหรับพรวนหน้าดินให้โปร่ง อากาศถ่ายเทดี ช่วยให้รากต้นไม้ไม่อับชื้น
- พลั่ว: มีทั้งแบบปลายแหลม (ขุดหลุมลึก) และปลายแบน (ตักดิน) สำหรับขุดดิน ใส่ปุ๋ย ย้ายต้นไม้หรือตกแต่งพื้นที่ในสวน
- คราด: หัวคราดแบบฟันเหล็กหรือพลาสติก สำหรับเก็บเศษใบไม้ ปรับหน้าดินให้เรียบ หรือเกลี่ยปุ๋ยให้ทั่วแปลง
- ช้อนปลูก: มีลักษณะคล้ายช้อนขุด ทำจากโลหะหรือพลาสติกแข็ง ด้ามจับถนัดมือ สำหรับขุดหลุมเล็ก ย้ายต้นกล้า หรือปลูกต้นไม้ในกระถาง
- บัวรดน้ำ: มีหัวฝักบัวกระจายน้ำ ทำจากพลาสติกหรือโลหะ ความจุ 1-10 ลิตร สำหรับรดน้ำให้ทั่วถึงโดยไม่แรงเกินไป เหมาะกับไม้กระถางหรือแปลงดอกไม้
ทริกเลือกอุปกรณ์สำหรับปลูกต้นไม้
ควรเลือกอุปกรณ์ที่ใช้งานง่าย น้ำหนักเบา และทนทาน เหมาะกับประเภทของการใช้งานและสอดคล้องกับขนาดของพื้นที่ปลูก หากเป็นสวนขนาดใหญ่ การใช้อุปกรณ์ขนาดใหญ่จะช่วยประหยัดแรงและเวลาได้มากขึ้น สำหรับสวนขนาดเล็กหรือพื้นที่กระถาง อาจใช้อุปกรณ์ขนาดกะทัดรัดก็เพียงพอ
วัสดุสำหรับปลูกต้นไม้
- ดินปลูกสูตรสำเร็จ: ดินปลูกมีหลายประเภทตามการใช้งาน โดยแต่ละชนิดมีปริมาณแร่ธาตุและคุณสมบัติการระบายน้ำที่แตกต่างกัน สามารถสังเกตได้จากหน้าถุงว่าดินเหมาะกับการปลูกต้นไม้อะไรบ้าง
- ขุยมะพร้าว/กาบมะพร้าวสับ: กาบมะพร้าวมีความสามารถอุ้มน้ำได้ดี และอุดมไปด้วยธาตุโพแทสเซียม เหมาะสำหรับใช้เป็นวัสดุตอนกิ่งต้นไม้ หรือผสมในดินเพื่อเพิ่มความร่วนซุย โดยเฉพาะกับไม้รากอากาศและไม้ใบหลายชนิด
- แกลบดิบ (แกลบขาว): แกลบที่เหลือจากกระบวนการสีข้าวเปลือก มีน้ำหนักเบาและโปร่ง ช่วยปรับปรุงดินเค็ม เพิ่มความร่วนซุย และเสริมแร่ธาตุอาหารในดิน
- แกลบเผา (แกลบดำ): ขี้เถ้าแกลบจากการเผา ช่วยให้ดินร่วนซุย ไม่อมน้ำ และลดความเป็นกรดในดิน เหมาะกับต้นไม้ที่ไม่ต้องการความชื้นสูง
- พีตมอส: ซากมอสที่ทับถมกันเป็นเวลานาน มีอินทรียวัตถุสูง อุ้มน้ำดี มีความเป็นกรด (pH 3.2–4.5) เหมาะสำหรับการเพาะเมล็ดหรือเพาะกล้า
- สแฟกนั่มมอส: มอสแห้งสามารถอุ้มน้ำดี น้ำหนักเบา ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย และมีความเป็นกรด (pH 3.5–4.0) เหมาะกับการอนุบาลต้นไม้และปลูกไม้ดอกไม้ประดับ
- เพอร์ไลต์: หินกรวดสีขาวจากแร่ภูเขาไฟ ระบายอากาศดี น้ำหนักเบา ไม่ยุบตัว สำหรับใช้ผสมในดินเพื่อเพิ่มช่องว่างอากาศ เหมาะกับพืชที่ต้องการดินโปร่ง
- เวอร์มิคูไลต์: คล้ายเพอร์ไลต์อุดมไปด้วยธาตุอาหารสำคัญ เช่น โพแทสเซียม แมกนีเซียม และแคลเซียม พร้อมทั้งดูดซับน้ำได้ดี เหมาะสำหรับปลูกผักไฮโดรโปนิกส์และไม้ดอก
- หินภูเขาไฟ: หินภูเขาไฟอุดมด้วยแร่ธาตุ เช่น ซิลิกา แคลเซียม และแมกนีเซียม ช่วยดูดซับสารอาหารและลดความเป็นกรดในดิน นิยมใช้กับต้นกระบองเพชร
- ใบไม้ผุ (ใบก้ามปูผุ): มีไนโตรเจนสูง ช่วยบำรุงลำต้นและใบ ระบายน้ำดี เหมาะกับต้นไม้หลายชนิด โดยเฉพาะการปลูกต้นไม้ในกระถาง
- ทรายหยาบ: มักใช้ทรายหยาบจากแม่น้ำ เพื่อป้องกันดินจับตัวเป็นก้อนและเพิ่มการระบายน้ำ
วิธีปลูกต้นไม้ทั้งแบบในกระถางและลงดินง่าย ๆ สำหรับมือใหม่
1. ขั้นตอนการปลูกต้นไม้ในกระถาง
- เลือกกระถางที่มีรูระบายน้ำ: ควรเลือกขนาดพอเหมาะกับต้นไม้ ปากกว้าง และมีรูที่ก้นกระถางเพื่อระบายน้ำไม่ให้รากเน่า รวมถึงสะดวกต่อการใช้งาน เช่น หากต้องเคลื่อนย้ายตำแหน่งกระถางต้นไม้บ่อย ควรเลือกแบบที่มีน้ำหนักเบาและเคลื่อนย้ายสะดวก
- เตรียมวัสดุสำหรับปลูกต้นไม้ในกระถาง: รองก้นกระถางด้วยวัสดุโปร่ง เช่น กาบมะพร้าวหรือหินเล็ก ๆ เพื่อช่วยระบายน้ำและให้อากาศถ่ายเท จากนั้นเติมดินปลูกที่เหมาะสมกับชนิดของต้นไม้ เช่น ดินร่วนปนทราย เพื่อให้พืชได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน
- นำต้นไม้ลงกระถาง: รดน้ำต้นไม้เล็กน้อยก่อนนำลงปลูก เพื่อให้ดินจับตัวเป็นก้อนและป้องกันรากขาด จากนั้นค่อย ๆ วางต้นไม้ลงในกระถาง โดยให้โคนต้นอยู่ในระดับเดียวกับผิวดิน
- เติมดินและกลบให้แน่น: กลบดินให้เต็มกระถาง แล้วกดเบา ๆ รอบโคนต้น เพื่อช่วยยึดต้นไม้ให้อยู่ตัวและตั้งตรง
- ตั้งในบริเวณที่สัมผัสกับแสงอย่างเหมาะสม: วางกระถางในบริเวณที่ต้นไม้ได้รับแสงตามความต้องการของต้นไม้แต่ละชนิด เช่น แดดจัด หรือในร่มที่สัมผัสแสงแดดรำไร
2. ขั้นตอนการปลูกต้นไม้ลงดิน
- เตรียมพื้นที่ปลูกต้นไม้: เลือกบริเวณที่ต้นไม้จะได้รับแสงแดดอย่างเพียงพอ ดินไม่แฉะหรือน้ำขัง และเหมาะสมกับความต้องการของต้นไม้แต่ละชนิด อาจพรวนดินหรือเสริมแร่ธาตุให้ดินก่อนปลูก เพื่อให้ดินมีสภาพพร้อมต่อการเจริญเติบโต
- เตรียมหลุมปลูก: ขุดหลุมให้กว้างและลึกกว่าถุงปลูกประมาณ 1.5-2 เท่า เพื่อให้รากแผ่ขยายได้สะดวก แล้วเติมปุ๋ยหรืออินทรียวัตถุลงไปในดิน เพื่อเพิ่มความร่วนซุยและเติมเต็มสารอาหาร
- นำต้นไม้ลงดิน: รดน้ำต้นไม้เล็กน้อยก่อนนำลงปลูก เพื่อให้ดินจับตัวเป็นก้อน แล้วค่อย ๆ แกะต้นไม้ออกจากถุงโดยไม่ให้รากเสียหาย วางต้นไม้ลงในหลุมโดยให้โคนต้นเสมอกับผิวดินเดิม
- เติมดินและกลบให้แน่น: กลบดินให้เต็มหลุมปลูก แล้วกดเบา ๆ รอบโคนต้น เพื่อช่วยยึดต้นไม้ให้อยู่ตัวและตั้งตรง
- คลุมวัสดุสำหรับปลูกต้นไม้รอบโคนต้น: เช่น ใช้ฟาง แกลบ หรือใบไม้แห้งคลุมดิน เพื่อรักษาความชื้นและลดการเติบโตของวัชพืช
6 เคล็ดลับดูแลบำรุงรักษาต้นไม้ให้งอกงาม
1. การรดน้ำ
การรดน้ำต้นไม้ที่ถูกวิธี เริ่มจากการรู้จักความต้องการของต้นไม้แต่ละประเภท หากเป็นต้นไม้ที่ชอบน้ำมากควรรดวันละ 1-2 ครั้ง ต้นไม้ที่ชอบน้ำปานกลางให้รดทุก 2-3 วัน ส่วนต้นไม้ที่ทนน้ำได้ดีให้รดทุก 4-7 วัน ทั้งนี้เวลาที่เหมาะกับการรดน้ำต้นไม้คือ ช่วงเช้าและช่วงเย็น เพราะช่วยให้ต้นไม้มีความชุ่มชื้นเพียงพอสำหรับการสังเคราะห์แสง และรักษาความชื้นของดินไว้ได้ตลอดคืน
ข้อควรระวังเกี่ยวกับการรดน้ำต้นไม้
- ควรตรวจสอบความชื้นของดินก่อนรดน้ำ: ด้วยการกดนิ้วลงบนดินว่า แห้งหรือไม่ หากดินยังชื้นอยู่ อาจไม่จำเป็นต้องรดน้ำเพิ่มเติม
- หลีกเลี่ยงการรดน้ำจนดินแฉะเกินไป: เพราะดินที่รดน้ำมากเกินไปจนแฉะอาจทำให้รากเน่า และต้นไม้ตายได้
- หลีกเลี่ยงการรดน้ำต้นไม้ในช่วงแดดแรงจัด: เพราะความร้อนจะทำให้น้ำระเหยอย่างรวดเร็ว ต้นไม้ดูดน้ำได้ไม่ทัน และอาจทำให้ใบไม้ไหม้จากความร้อนที่สะสมบนผิวใบ
2. การรับแสงแดด
จัดวางให้ต้นไม้ได้รับแสงแดด อย่างน้อยวันละ 4 ชั่วโมง ส่วนพวกไม้ดอก ไม้ผล หรือไม้พุ่มจัดสวน ควรได้รับแสงแดดโดยตรงวันละ 6-8 ชั่วโมง โดยเฉพาะในช่วงเช้าจนถึงบ่ายสอง เพราะเป็นช่วงที่แสงแดดเหมาะสมต่อการสังเคราะห์แสงและช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตได้ดีที่สุด
3. การใส่ปุ๋ย
หมั่นใส่ปุ๋ยในช่วงเช้าหรือช่วงเย็น เพื่อป้องกันการสูญเสียแร่ธาตุจากแสงแดด โดยใส่ในปริมาณที่เหมาะสมและเลือกใช้ทั้งปุ๋ยอินทรีย์ที่ช่วยปรับปรุงโครงสร้างดินในระยะยาวควบคู่กับปุ๋ยเคมีที่ช่วยให้พืชได้รับสารอาหารอย่างรวดเร็ว แบ่งออกเป็น 4 ช่วงเวลาของการปลูกต้นไม้ ดังนี้
- ช่วงเริ่มปลูก: ควรใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักที่มีธาตุอาหารหลัก อย่าง N-P-K เพื่อส่งเสริมการงอกและสร้างรากให้แข็งแรง
- ช่วงเจริญเติบโต: ควรใส่ปุ๋ยที่มีไนโตรเจน (N) สูง และเสริมธาตุรอง เช่น แคลเซียมและแมกนีเซียม เพื่อเสริมความแข็งแรงให้ต้นไม้
- ช่วงออกดอก: ปรับมาใช้ปุ๋ยที่มีฟอสฟอรัส (P) และโพแทสเซียม (K) สูง เพื่อกระตุ้นการออกดอกและผล
- ช่วงก่อนเก็บเกี่ยว: ควรใส่ปุ๋ยที่มีโพแทสเซียมและแมกนีเซียม เพื่อให้ผลผลิตสมบูรณ์ และต้านทานโรคได้ดี
4. การตัดแต่งกิ่งและใบ
หมั่นตัดแต่งกิ่งที่แก่และออกผลแล้ว เนื่องจากไม่สามารถให้ผลผลิตใหม่ได้ โดยกิ่งกระโดงควรตัดออกเพื่อกระตุ้นให้แตกกิ่งใหม่ และตัดกิ่งที่มีโรคหรือแมลงทำลาย เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค
สำหรับกิ่งใหญ่ควรใช้เลื่อยตัดแบบมีรอยบากเพื่อไม่ให้ฉีกขาด ส่วนกิ่งเล็กใช้กรรไกรตัดโดยเหลือตอเล็กน้อย และอาจทาปูนแดงเพื่อป้องกันเชื้อรา ทั้งนี้กิ่งที่ตัดออกสามารถนำมาใช้เป็นวัสดุคลุมดิน เพื่อปรับปรุงโครงสร้างดินได้
5. การกำจัดศัตรูพืช
หมั่นกำจัดศัตรูพืชอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรักษาสุขภาพของพืชให้เจริญงอกงาม เติบโตได้อย่างเต็มที่ โดยการป้องกันและกำจัดศัตรูพืช สามารถทำได้ตามชนิดของศัตรูพืช
- วัชพืช: ควรไถพรวน ถอนวัชพืชออกจากแปลงปลูกต้นไม้ และคลุมดินด้วยวัสดุต่าง ๆ เช่น ฟางหรือพลาสติก รวมถึงใช้วิธีชีวภาพหรือสารเคมีฉีดพ่นวัชพืชอย่างระมัดระวัง
- แมลงศัตรูพืช: ใช้พันธุ์พืชต้านทานโรค กับดักแสงไฟ หรือกาวเหนียว รวมถึงสารสกัดจากสมุนไพร เช่น สารสกัดจากสะเดา ใบยาสูบ และแมลงตัวห้ำตัวเบียน โดยหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีเกินความจำเป็น เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
6. การพรวนดิน
ควรพรวนดินก่อนปลูกต้นไม้ ในช่วงเปลี่ยนฤดูและหลังเก็บเกี่ยว เพื่อปรับสภาพดินให้โปร่งและพร้อมรับธาตุอาหาร โดยพรวนดินหลังรดน้ำ 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้ดินชื้นกำลังดี ไม่แห้งหรือแฉะเกินไป เพราะหากพรวนตอนดินเปียกจัด ดินจะจับตัวแน่น รากพืชอาจขาดอากาศและเน่าได้
หลังพรวนดินควรเติมอินทรียวัตถุ เช่น ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก หรือถ่านชีวภาพ และหากไม่ต้องการพรวนดินจนเสียหน้าดิน สามารถเลี้ยงไส้เดือนดิน เติมจุลินทรีย์ในดิน หรือปลูกพืชคลุมดินอย่าง ปอเทือง ถั่วพุ่ม หรือถั่วเขียว เพื่อลดการอัดตัวของหน้าดินและเพิ่มความหลากหลายของธาตุอาหารในดินตามธรรมชาติ
รวมต้นไม้น่าปลูก เสริมบรรยากาศบ้านให้น่าอยู่ จาก AP Thai
- ต้นไม้มงคลหน้าบ้าน-ในบ้าน ปลูกแล้วเฮง ๆ ชีวิตดี
- แชร์ต้นไม้ใหญ่ปลูกในบ้าน ให้ร่มเงา บังแดด ลดร้อน ให้บ้านเย็น
- รวมไม้ดอกไม้ประดับทนแดด ที่นิยมปลูกรอบบ้าน ให้ดูสวยสดใส
เปลี่ยนมุมบ้านให้มีชีวิต เริ่มต้นด้วยการปลูกต้นไม้ง่าย ๆ
การปลูกต้นไม้ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงเริ่มต้นด้วยการศึกษาวิธีการที่เหมาะสม เลือกต้นไม้ให้เข้ากับพื้นที่และไลฟ์สไตล์ พร้อมดูแลอย่างสม่ำเสมอ ก็สามารถเติมความสดชื่นให้ทุกมุมของบ้าน เปลี่ยนพื้นที่ธรรมดาให้กลายเป็นมุมพักผ่อนสีเขียวที่น่าอยู่ได้ในทุกวัน
เอพีไทยแลนด์ ช่วยเติมเต็มความหมายของชีวิต
เลือกเป็นเจ้าของโครงการบ้านจาก เอพีไทยแลนด์ เพื่อสร้างชีวิตดี ๆ บนพื้นที่ความสุขที่เราเลือกเอง ไม่ว่าจะเป็น โครงการบ้านเดี่ยวพื้นที่กว้างขวางเป็นส่วนตัว ทาวน์โฮมดีไซน์สวยหรือบ้านแฝดฟังก์ชันใหญ่ คอนโดมิเนียมทำเลติดรถไฟฟ้าเดินทางง่าย และโฮมออฟฟิศฟังก์ชันเจ๋งที่รองรับทุกธุรกิจ สามารถเลือกได้ตามต้องการ เพราะ “บ้าน” ไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย
EMPOWER LIVING อยู่ .. เพื่อทุกความหมายของคุณ