MAIN POINT
- ข้อบัญญัติควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ พ.ศ. 2567 มีการกำหนดจำนวนสัตว์เลี้ยงน้องหมาและน้องแมวตามขนาดพื้นที่ เช่น คอนโดขนาด 20-80 ตร.ม. เลี้ยงได้ 1 ตัว คอนโดมากกว่า 80 ตร.ม. เลี้ยงได้ 2 ตัว ส่วนบ้านพื้นที่ไม่เกิน 20 ตร.ว เลี้ยงได้ 2 ตัว หากมากกว่า 100 ตร.ว สามารถเลี้ยงได้มากถึง 6 ตัว ทั้งนี้หากปัจจุบันเลี้ยงมากกว่าที่กฎหมายกำหนด ต้องแจ้งต่อสำนักงานเขตหรือทางออนไลน์ ภายในวันที่ 9 เมษายน 2569
- สิ่งที่เจ้าของสัตว์ต้องเตรียมให้พร้อมก่อนกฎหมายบังคับใช้คือ ต้องนำสัตว์เลี้ยงไปฝังไมโครชิป โดยมีบริการฟรีที่คลินิกสัตวแพทย์ กทม. ทั้ง 8 แห่ง พร้อมเตรียมเอกสารประกอบ เช่น ใบวัคซีน บัตรประชาชน และทะเบียนบ้าน เพื่อนำไปจดทะเบียนสุนัขและแมว ให้ถูกต้องตามกฎหมาย ก่อนรับบัตรประจำตัวสัตว์เลี้ยง
กรุงเทพมหานครได้ประกาศกฎหมายใหม่ ‘ข้อบัญญัติควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ พ.ศ. 2567’ ลงราชกิจจานุเบกษาแล้ว เพื่อให้เหล่าทาสและเจ้านายสี่ขาอยู่ร่วมกันอย่างปลอดภัย เป็นระเบียบ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น AP Thai จึงอัปเดตข้อมูลฉบับเข้าใจง่ายให้ทุกคนได้เตรียมพร้อมก่อนวันบังคับใช้ในวันที่ 10 มกราคม 2569 นี้
การจำกัดจำนวนสัตว์เลี้ยงหมา - แมวตามขนาดพื้นที่

ทั้งเหล่าทาสหรือสัตว์เลี้ยงต่างก็ต้องการสเปซส่วนตัวแสนอบอุ่น การจำกัดจำนวนสัตว์เลี้ยงให้เหมาะกับพื้นที่ เป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เจ้าตัวน้อยมีพื้นที่เล่น และช่วยรักษาคุณภาพชีวิตของคนในบ้านและเพื่อนบ้านโดยรอบให้อยู่ร่วมกันได้อย่างสบายใจและมีความสุข
ห้องเช่าหรือคอนโด

- ขนาดพื้นที่ 20-80 ตร.ม. สามารถเลี้ยงได้ไม่เกิน 1 ตัว เพื่อให้เจ้าตัวน้อยมีพื้นที่อบอุ่นให้พักผ่อนและเดินเล่นได้
- พื้นที่ 80 ตร.ม. ขึ้นไป สามารถเลี้ยงรวมกันได้ไม่เกิน 2 ตัว ใครอยู่ห้องใหญ่หน่อย ก็เลี้ยงคู่ให้เป็นเพื่อนเล่นกันได้
บ้านเดี่ยวหรือทาวน์โฮมที่มีที่ดิน

- เนื้อที่ไม่เกิน 20 ตารางวา สามารถเลี้ยงรวมกันได้ไม่เกิน 2 ตัว
- เนื้อที่ 20-50 ตารางวา สามารถเลี้ยงรวมกันได้ไม่เกิน 3 ตัว
- เนื้อที่ 50-100 ตารางวา สามารถเลี้ยงรวมกันได้ไม่เกิน 4 ตัว
- เนื้อที่ตั้งแต่ 100 ตารางวาขึ้นไป สามารถเลี้ยงรวมกันได้ไม่เกิน 6 ตัว
| พื้นที่/ประเภทที่พักอาศัย | จำนวนที่เลี้ยงได้ |
| ห้องเช่า หรือ คอนโด 20-80 ตร.ม. | เลี้ยงได้ 1 ตัว |
| ห้องเช่า หรือ คอนโด มากกว่า 80 ตร.ม. ขึ้นไป | ไม่เกิน 2 ตัว |
| เนื้อที่ไม่เกิน 20 ตร.ว. | ไม่เกิน 2 ตัว |
| เนื้อที่ 20-50 ตร.ว. | ไม่เกิน 3 ตัว |
| เนื้อที่ 50-100 ตร.ว. | ไม่เกิน 4 ตัว |
| เนื้อที่ตั้งแต่ 100 ตร.ว. | ไม่เกิน 6 ตัว |
การจำกัดจำนวนสัตว์เลี้ยงประเภทอื่น ๆ ตามขนาดพื้นที่
| ประเภทสัตว์ | พื้นที่/ประเภทที่พักอาศัย | จำนวนที่เลี้ยงได้ |
|
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม (ขนาดใหญ่) เช่น โค กระบือ ม้า กวาง |
พื้นที่เลี้ยง 50 ตร.ว. | 1 ตัว |
|
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม (ขนาดเล็ก) เช่น แพะ แกะ สุกร ม้าแคระ |
พื้นที่เลี้ยง 50 ตร.ว. | 3 ตัว |
|
สัตว์ปีก เช่น ไก่ เป็ด ห่าน |
พื้นที่เลี้ยง 4 ตร.ม. ขึ้นไป | 1 ตัว ต่อ 4 ตร.ม. |
|
นกขนาดใหญ่ เช่น นกกระจอกเทศ |
พื้นที่เลี้ยง 50 ตร.ม. | 1 ตัว |
| นกขนาดเล็ก | พื้นที่เลี้ยง 1 ตร.ม. | 5 ตัว |
กรณีเลี้ยงสัตว์เกินจำนวนก่อนกฎหมายบังคับใช้
สำหรับกรณีที่เจ้าของเลี้ยงสัตว์เกินกว่าจำนวนที่กำหนดไว้ ก่อนวันที่ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครบังคับใช้วันที่ 10 มกราคม 2569 สามารถเลี้ยงน้อง ๆ ต่อได้ แต่ต้องแจ้งต่อสำนักงานเขตหรือแจ้งทางออนไลน์ ภายใน 90 วันนับแต่วันที่กฎหมายนี้ใช้บังคับหรือภายในวันที่ 9 เมษายน 2569
ข้อห้ามเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ที่ต้องควบคุมในที่สาธารณะ

ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครเรื่องการควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ พ.ศ. 2567 จึงได้กำหนดข้อห้ามเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ที่ต้องควบคุมในที่สาธารณะ ดังนี้
- ห้ามเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ในที่หรือทางสาธารณะ ทั้งทางเท้า ถนน สวนสาธารณะ รวมถึงพื้นที่ส่วนรวมของชุมชนหรืออาคาร
- ห้ามเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ในที่ของบุคคลอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้น ถ้าลูก ๆ ของเราวิ่งเข้าบ้านเพื่อนบ้าน สนามหญ้าคนอื่น หรือพื้นที่เช่าที่ไม่ได้รับอนุญาตก็อาจผิดกฎหมายได้
การจดทะเบียนและฝังไมโครชิป

หนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่เหล่าทาสต้องเตรียมพร้อมให้สัตว์เลี้ยงในกรุงเทพฯ คือ สุนัขและแมวทุกตัวในเขต กทม. ต้องฝังไมโครชิป จดทะเบียน และมีบัตรประจำตัว เพื่อยืนยันตัวตน ป้องกันการสูญหาย โดยต้องดำเนินการภายในระยะเวลาที่กำหนด
- 120 วัน นับจากวันที่สัตว์เกิด
- 30 วัน นับจากวันที่นำสัตว์เข้ามาเลี้ยงในเขตกรุงเทพมหานคร
โดยสามารถทำด้วยตัวเอง หรือมอบอำนาจให้คนอื่นดำเนินการได้ที่
- สำนักงานเขต
- สำนักงานสัตวแพทย์สาธารณสุข
- สำนักอนามัย
หรือแจ้งผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งคาดว่าระบบจะแล้วเสร็จ พร้อมเปิดให้ชาวกรุงเทพฯ ใช้งานได้ในช่วงปลายปี 2568 หลังจดทะเบียนแล้วจะได้รับบัตรประจำตัวสุนัขหรือแมว เอาไว้ใช้ยืนยันตัวตนเมื่อต้องออกนอกบ้านหรือมีการเรียกตรวจสอบ
เอกสารที่ต้องใช้ในการจดทะเบียนสัตว์เลี้ยง

ขอบคุณภาพจาก Official Page สำนักงานสัตวแพทย์สาธารณสุข
- บัตรประชาชนของเจ้าของสัตว์ ใช้ยืนยันตัวตนผู้ครอบครอง
- ทะเบียนบ้านของสถานที่เลี้ยง เพื่อยืนยันพื้นที่ที่สัตว์อาศัยอยู่
- ใบรับรองไมโครชิป เอกสารที่ได้รับหลังฝังไมโครชิป
- หนังสือยินยอมจากผู้ให้เช่าหากเป็นผู้เช่าบ้านหรือคอนโด ต้องมีความยินยอมจากเจ้าของพื้นที่
- หนังสือรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ต้องฉีดมาไม่เกิน 1 ปี และมีหมายเลขล็อตวัคซีน ลงชื่อรับรองโดยสัตวแพทย์ พร้อมเลขที่ใบอนุญาต หรือผู้มีอำนาจตามกฎหมาย
- หนังสือรับรองการทำหมัน (ถ้ามี)
- หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี) กรณีให้ผู้อื่นดำเนินการแทนเจ้าของ
การแจ้งเปลี่ยนแปลงข้อมูลหลังการจดทะเบียน
- ต้องแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ภายใน 30 วัน ในกรณีย้ายที่อยู่ของสัตว์ บัตรประจำตัวสัตว์หายหรือชำรุด รวมถึงเมื่อสัตว์เลี้ยงตาย
- ในกรณีที่ถ้าสัตว์หายต้องแจ้งภายใน 3 วัน และเมื่อพบแล้วก็ต้องแจ้งภายใน 3 วันเช่นกัน
รายชื่อของสุนัขสายพันธุ์อันตรายที่ต้องควบคุมเป็นพิเศษ

นอกจากนี้กรุงเทพมหานครยังได้กำหนดหมวด “สุนัขควบคุมพิเศษ” ขึ้นมาเพื่อความปลอดภัยของทั้งคนและสัตว์ โดยเน้นสุนัขที่มีพละกำลังสูง มีประวัติเคยทำร้ายหรือพยายามทำร้ายคน หากต้องพาออกนอกบ้าน ต้องควบคุมอย่างเข้มงวดตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ พ.ศ. 2567
ข้อปฏิบัติในการเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์ที่ต้องควบคุมพิเศษ
เมื่อพาออกนอกสถานที่เลี้ยงต้องมีอุปกรณ์ครอบปาก สายจูงที่แข็งแรง และต้องจับสายจูงในระยะไม่เกิน 50 ซม. จากคอสุนัขตลอดเวลา โดยบุคคลที่จะพาออกนอกบ้านต้องมีอายุ 15-65 ปี
รายชื่อสุนัขสายพันธุ์ที่ต้องควบคุมพิเศษ
- พิทบูลเทอร์เรีย (Pit Bull Terrier)
- บูลเทอร์เรีย (Bull Terrier)
- สเตฟฟอร์ดเชอร์บูลเทอร์เรีย (Staffordshire Bull Terrier)
- รอทไวเลอร์ (Rottweiler)
- ฟิลา บราซิลเลียโร (Fila Brasileiro)
- สุนัขอื่น ๆ ที่กทม.ประกาศเพิ่มเติมในอนาคต
รวมถึงสุนัขที่มีประวัติทำร้ายคน หรือพยายามทำร้ายคน แม้จะไม่ใช่สายพันธุ์ในรายชื่อก็ถือเป็นสุนัขควบคุมพิเศษทันที
ข้อปฏิบัติเมื่อพาสัตว์เลี้ยงออกนอกบ้าน

1. ต้องพกบัตรประจำตัวสัตว์เลี้ยงไว้เสมอ
เมื่อเจ้าหน้าที่ขอตรวจเจ้าของต้องแสดงบัตรประจำตัวสุนัขหรือแมวได้ทันที เพื่อยืนยันว่าเป็นสัตว์ที่จดทะเบียน มีไมโครชิป และมีเจ้าของดูแลถูกต้อง
2. ต้องควบคุมสัตว์ตลอดเวลา
ห้ามปล่อยให้สัตว์เลี้ยงเดินอิสระเอง ต้องใช้สายจูงที่แข็งแรงหรือใส่กระเป๋า กรง หรือรถเข็นให้เรียบร้อย และมีอุปกรณ์เสริมเพื่อไม่ให้รบกวนหรือเป็นอันตรายต่อคนหรือสัตว์เลี้ยงตัวอื่น
3. ต้องจัดการสิ่งปฏิกูลของสัตว์ทันที
เจ้าของต้องเก็บมูลสัตว์ที่เกิดจากสัตว์เลี้ยงของตัวเองในที่สาธารณะทันที เพราะเป็นเรื่องความสะอาด สุขลักษณะ และความรับผิดชอบต่อบุคคลอื่น
ตารางเปรียบเทียบข้อปฏิบัติเมื่อพาสุนัขออกนอกบ้าน ระหว่างสุนัขทั่วไปและควบคุมพิเศษ
| รายการ | สุนัขทั่วไป | สุนัขควบคุมพิเศษ |
| การควบคุมขณะเดิน | ต้องใช้สายจูงที่แข็งแรง และจับสายจูงตลอดเวลา | ใช้สายจูงที่แข็งแรงเป็นพิเศษ และจับสายจูงในระยะไม่เกิน 50 ซม. จากคอสุนัข |
| อุปกรณ์บังคับเพิ่มเติม | ไม่จำเป็นต้องครอบปาก (ยกเว้นพฤติกรรมจำเป็น) | ต้องครอบปากทุกครั้ง |
| ผู้ควบคุมสัตว์ | ไม่กำหนดอายุ | ต้องเป็นผู้มีอายุ 15-65 ปี และมั่นใจว่าควบคุมได้ |
8 คลินิกสัตวแพทย์ของกรุงเทพมหานครที่ให้บริการจดทะเบียน

สำหรับเหล่าทาสในกรุงเทพฯ ที่กำลังเตรียมพาเจ้าตัวน้อยไปฝังไมโครชิปและจดทะเบียนตามข้อบัญญัติที่จะมีผลบังคับใช้ในปี 2569 ทางกรุงเทพมหานครมีคลินิกสัตวแพทย์ให้บริการทำหมัน ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ฝังไมโครชิป และจดทะเบียนสัตว์ แบบฟรี! แถมยังมีบริการตรวจรักษาโรคเบื้องต้นให้กับสัตว์เลี้ยงของทาสทุกคนอีกด้วย
- คลินิกสัตวแพทย์ กทม.1 สี่พระยา เขตบางรัก
- ที่อยู่: อาคารศูนย์บริการสาธารณสุข 23 สี่พระยา ถ. สี่พระยา ตรงข้ามวัดแก้วแจ่มฟ้า เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร
- เบอร์ติดต่อ: 0-2236-4055 ต่อ 213
- คลินิกสัตวแพทย์ กทม.2 มีนบุรี เขตมีนบุรี
- ที่อยู่: อาคารศูนย์บริการสาธารณสุข 43 มีนบุรี 39 หมู่ 1 ถ.สีหบุรานุกิจ แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร
- เบอร์ติดต่อ: 0-2914-5822
- คลินิกสัตวแพทย์ กทม.3 วัดธาตุทอง เขตวัฒนา
- ที่อยู่: อาคารศูนย์บริการสาธารณสุข 21 วัดธาตุทอง ถ.สุขุมวิท แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
- เบอร์ติดต่อ: 0-2392-9278 ต่อ 118
- คลินิกสัตวแพทย์ กทม.4 บางเขน เขตจตุจักร
- ที่อยู่: อาคารศูนย์บริการสาธารณสุข 24 บางเขน ถ.พหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
- เบอร์ติดต่อ: 0-2579-1342 ต่อ 15 หรือ 096-850-1600
- คลินิกสัตวแพทย์ กทม.5 วัดหงส์รัตนาราม เขตบางกอกใหญ่
- ที่อยู่: อาคารศูนย์บริการสาธารณสุข 33 วัดหงส์รัตนาราม ถ.อิสรภาพ แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร
- เบอร์ติดต่อ: 0-2472-5895 ต่อ 109
- คลินิกสัตวแพทย์ กทม.6 ช่องนนทรี เขตจอมทอง
- ที่อยู่: อาคารศูนย์บริการสาธารณสุข 29 ช่วงนุชเนตร ถ.วุฒากาศ แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร
- เบอร์ติดต่อ: 0-2476-6493 ต่อ 1104
- คลินิกสัตวแพทย์ กทม.7 บางกอกน้อย เขตบางกอกน้อย
- ที่อยู่: 527/78 ถ.จรัญสนิทวงศ์ แขวงบางกอกน้อย เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร
- เบอร์ติดต่อ: 0-2411-2432
- กลุ่มควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า ถ.มิตรไมตรี เขตดินแดง
- ที่อยู่: 99 ถ.มิตรไมตรี แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร
- เบอร์ติดต่อ: 0-2248-7417 / 0-2245-3311
บทลงโทษหากฝ่าฝืนกฎหมายเลี้ยงสัตว์ กทม. ล่าสุด

ผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกลงโทษตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม อาจถูกสั่งปรับสูงสุดสองหมื่นห้าพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับได้
- ก่อเหตุให้รำคาญ: เช่น ปล่อยให้เกิดกลิ่นเหม็น เสียงดัง ไม่เก็บมูล หรือปล่อยเพ่นพ่าน ตามมาตรา 25(2) อาจได้รับโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 25,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับตามมาตรา 74
- ฝ่าฝืนข้อบัญญัติท้องถิ่นเกี่ยวกับการเลี้ยงสัตว์: เช่น เลี้ยงเกินจำนวน ไม่จดทะเบียน พาเข้าสถานที่ห้าม ตามมาตรา 29 อาจถูกปรับไม่เกิน 25,000 บาท ตามมาตรา 73 วรรคสอง
- ปล่อยสัตว์หลุดเพ่นพ่าน โดยไม่พบเจ้าของเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์กักสัตว์ 30 วัน และหากเจ้าของไม่มารับอาจจำหน่ายหรือทำลายตามความจำเป็น ในมาตรา 30
- ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงาน: ตามมาตรา 22 และ 27-28 อาจได้รับโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 25,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 74
สำหรับใครที่สนใจข้อกฎหมายตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติมสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2560 โดยเว็บไซต์สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (https://epa.onep.go.th/)
รวมสาระดี ๆ เรื่องเลี้ยงสัตว์ในบ้านและคอนโด ด้วยบทความน่ารู้จาก AP Thai
- How to เลี้ยงหมาตัวแรกในบ้าน ฝึกอย่างไร ให้เป็น Good Buddy
- วิธีเลี้ยงแมวในบ้าน สำหรับทาสมือใหม่ เลี้ยงแมวอย่างไรให้ฉลาด
- รวมทริกกั้นห้องแมวในบ้านและคอนโด แฮปปี้ทั้งคนและเจ้าเหมียว
- Exotic Pet คืออะไร อยากเลี้ยงในบ้านเลือกสายพันธุ์ไหนดี?
- สายพันธุ์สุนัขยอดฮิต ขนาดเล็ก-ใหญ่ น่าเลี้ยงในบ้านและคอนโด
- สายพันธุ์แมวยอดฮิต สุดน่ารัก เลี้ยงง่ายทั้งในบ้านและคอนโด
เอพีไทยแลนด์ ช่วยเติมเต็มความหมายของชีวิต
เลือกเป็นเจ้าของโครงการบ้านจาก เอพีไทยแลนด์ เพื่อสร้างชีวิตดี ๆ บนพื้นที่ความสุขที่เราเลือกเอง ไม่ว่าจะเป็น โครงการบ้านเดี่ยวพื้นที่กว้างขวางเป็นส่วนตัว ทาวน์โฮมดีไซน์สวยหรือบ้านแฝดฟังก์ชันใหญ่ คอนโดมิเนียมทำเลติดรถไฟฟ้าเดินทางง่าย และโฮมออฟฟิศฟังก์ชันเจ๋งที่รองรับทุกธุรกิจ สามารถเลือกได้ตามต้องการ เพราะ “บ้าน” ไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย
EMPOWER LIVING อยู่ .. เพื่อทุกความหมายของคุณ









