10 สายพันธุ์นกแก้วยอดนิยม มาพร้อมความน่ารัก แถมพูดได้!

LIVING SERIES · PET FRIENDLY

10 สายพันธุ์นกแก้วยอดนิยม มาพร้อมความน่ารัก แถมพูดได้!

30 ต.ค. 2025

แชร์ไปยัง

เปิดลิสต์ 10 สายพันธุ์นกแก้วยอดนิยม แถมพูดได้ เลี้ยงง่าย เป็นเพื่อนคู่ใจสุดฉลาดที่ต้องหลงรัก พร้อมแนะนำข้อควรรู้ก่อนเลี้ยงนกแก้ว

MAIN POINT

  • เสน่ห์ของการเลี้ยงนกแก้วอยู่ที่ความน่ารักสดใส ขี้อ้อน และฉลาด สามารถสื่อสารกับเจ้าของได้ มือใหม่ก็เริ่มเลี้ยงได้ง่าย เพียงเลือกสายพันธุ์ขนาดเล็กอย่างนกเลิฟเบิร์ด นกกรีนชีคคอนัวร์ หรือนกซันคอนัวร์ ที่นิสัยเป็นมิตร ฝึกง่าย และปรับตัวเก่ง อยู่ด้วยแล้วเติมเต็มความสดใสในทุกวัน
  • ก่อนเลี้ยงนกแก้ว ควรศึกษากฎหมายให้เข้าใจ โดยเฉพาะสายพันธุ์ที่อยู่ในบัญชีไซเตส (CITES) ต้องมีเอกสารถูกต้อง จากนั้นศึกษานิสัยและความต้องการของแต่ละสายพันธุ์แล้วเลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ เตรียมพื้นที่และงบสำหรับดูแลอย่างเหมาะสม รวมถึงหมั่นสังเกตพฤติกรรมและสุขภาพสม่ำเสมอ 

 

สำหรับใครที่รู้สึกว่าบ้านกำลังเงียบเหงา การเลี้ยงนกแก้วสักตัวหรือสักคู่อาจช่วยเติมเต็มทั้งเสียงหัวเราะและความอบอุ่น ด้วยความฉลาด น่ารัก และสีสันสดใสของพวกเค้า AP Thai คัดสรร 10 สายพันธุ์นกแก้วยอดนิยม พร้อมแนะนำข้อควรรู้ก่อนเลี้ยง เพื่อให้ทุกบ้านอบอวลไปด้วยพลังแห่งความรักและความสดใสจากเพื่อนตัวจิ๋วกัน

 

แนะนำ 10 สายพันธุ์นกแก้วน่าเลี้ยง

รายชื่อสายพันธุ์นกแก้ว ลักษณะนิสัย
นกฟอพัส

น่ารัก ขี้เล่น ผูกพันกับเจ้าของไว และชอบเกาะใกล้ ๆ เป็นเพื่อนเล่นประจำบ้าน

นกหงส์หยก

ขี้เล่น เข้าสังคมเก่ง ชอบอยู่รวมกลุ่ม ฉลาด เลียนเสียงพูดได้ และรักสวยรักงาม

นกเลิฟเบิร์ด

ร่าเริง พลังงานสูง ขี้อ้อน รักมั่นคง ชอบอยู่เป็นคู่ และชอบดูแลกันและกัน

นกกรีนชีค คอนัวร์

ฉลาด ฝึกพูดได้ เสียงไม่ดังมาก และชอบอยู่ใกล้เจ้าของ

นกซันคอนัวร์

สายบู๊ พลังเยอะ บินเร็ว เสียงดัง เข้าสังคมเก่ง และสดใส

นกค็อกคาเทล

อ่อนโยน เป็นมิตร ชอบอยู่ใกล้คน ร้องเพลงเก่ง โดยเฉพาะเพศผู้

นกแก้วแอฟริกันเกรย์

ฉลาดที่สุดในบรรดานกแก้ว พูดเก่ง จำคำได้เยอะ ช่างสังเกต และอ่อนไหว ต้องการความเอาใจใส่

นกแก้วแอมะซอน

อินดี้ ตลก ฉลาด ขี้เล่น แต่บางทีก็ดื้อและตะกละ ชอบอ้อนเจ้าของในจังหวะมึน ๆ

นกกระตั้ว/นกค็อกคาทู

ติดเจ้าของมาก หวงคนที่รัก และแสดงอารมณ์ผ่านการกางหงอน

นกแก้วมาคอร์

ฉลาด ภักดี สังเกตไว ความจำดี ขี้เล่น ฝึกได้หลากหลาย และผูกพันกับเจ้าของมาก

 

1. นกฟอพัส (Forpus / Parrotlet)

สายพันธุ์นกแก้วยอดนิยม นกฟอพัส (Forpus)

นกฟอพัส (Forpus) เจ้าตัวจิ๋วสุดปุ๊กปิ๊ก ปากขอสั้นน่ารัก ส่งเสียงร้องเบา ๆ มาพร้อมสีสันสวยงามแบบพาสเทล ทั้งสีเขียว สีขาว สีเหลือง สีฟ้า พร้อมเติมพลังบวกเล็ก ๆ ได้ทุกวัน 

ลักษณะนิสัยของนกฟอพัส

นกฟอพัสเป็นนกแก้วจิ๋วที่น่ารัก ขี้เล่น ขี้อ้อน และช่างสังเกต พวกเค้าผูกพันกับเจ้าของได้อย่างรวดเร็ว แถมขี้หวงมาก สามารถฝึกให้เชื่องจนปล่อยบินอิสระในบ้านได้เลย

วิธีการดูแลนกฟอพัสเบื้องต้น

  • กรงหรือพื้นที่เลี้ยง: ควรมีขนาดกว้างพอให้น้องสามารถกางปีกและปีนเล่นได้อย่างอิสระ และแบ่งเวลาพาออกมาบินเล่นนอกกรงบ้าง ทั้งนี้ภายในกรงควรมีคอนไม้ ของเล่นไม้เล็กๆ หรือลูกหูกวาง เพื่อให้ได้แทะเล่นและช่วยลับจะงอยปากไปในตัว เพราะจะงอยปากของนกจะงอกออกมาตลอดเวลา การได้แทะสิ่งที่เหมาะสมจะช่วยไม่ให้ปากยาวหรือคมเกินไป
  • อาหาร: ให้เมล็ดพืช ผักสด และผลไม้ปลอดสาร เช่น ข้าวเปลือก เมล็ดทานตะวัน               แคร์รอต ผักโขม และหลีกเลี่ยงอาหารเค็ม หวาน และอะโวคาโด เพราะเสี่ยงเป็นพิษต่อระบบการย่อยอาหาร
  • เรื่องที่ควรระวัง: นกฟอพัสมีความเซนซิทีฟต่อสภาพอากาศมาก โดยเฉพาะอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงกะทันหันหรืออากาศเย็นเกินไป ควรหมั่นสังเกตอาการของน้องเสมอ เพราะช่วงเริ่มป่วยมักจะแสดงอาการเพียงเล็กน้อยจนแทบดูไม่ออก

2. นกหงส์หยก (Budgerigar)

สายพันธุ์นกแก้วยอดนิยม นกหงส์หยก (Budgerigar)

นกหงส์หยก (Budgerigar) นกแก้วยอดนิยมจากประเทศออสเตรเลีย เจ้าตัวจิ๋วสีสันสดใส ที่ใคร ๆ ต่างเรียกชื่อเล่นอย่างเอ็นดูว่า “บั๊ดจี้ส์” (Budgies) เหมาะกับนิสัยของพวกเขาที่เป็นเหมือนบัดดี้ที่รู้ใจ มีหลายสายพันธุ์และลักษณะแตกต่างกัน เช่น 

  • สายพันธุ์ฮอลแลนด์ (Holland Budgie) ตัวเล็กกะทัดรัด ขนาดกำลังน่ารัก มีลวดลายบริเวณคอและปีกที่ดูคล้ายลายม้าลาย
  • สายพันธุ์อังกฤษ (English Budgie) หรือที่หลายคนนิยมเรียกกันว่า สายเยอรมัน ตัวใหญ่หนา บึกบึน ดูสง่างาม
  • สายพันธุ์โอแพลลิน (Opaline) มีลักษณะเฉพาะตรงที่บริเวณคอ ใต้คอ และขอบปีกติดกับไหล่ ไม่มีลายหรือจุด สีกลมกลืนกับสีของลำตัว
  • สายพันธุ์เผือกหรืออัลบิโนส์ (Albino) สีขาวทั้งตัว หรือบางตัวมีโทนฟ้าอ่อนปนนิด ๆ
  • สายพันธุ์ลูติโนส์ (Lutino) นกสีเหลืองสดหรือสีเหลืองอมเขียว โดดเด่นด้วยนัยน์ตาสีแดง

ลักษณะนิสัยของนกหงส์หยก

น้องเป็นนกน้อยขี้เหงา ชอบเข้าสังคมและอยู่กับชาวแก๊ง ถ้าเลี้ยงเดี่ยว ทาสต้องมีเวลาเล่นและคุยกับน้องทุกวัน น้องฉลาดและเลียนเสียงพูดได้ ถ้าฝึกบ่อย ๆ พร้อมให้ขนมเป็นรางวัลเล็ก ๆ น้องจะจำได้ไวและยิ่งไว้ใจเรามากขึ้น ที่สำคัญน้องเป็นนกรักสวยรักงาม ชอบแต่งขนมาก ๆ

วิธีการดูแลนกหงส์หยกเบื้องต้น

  • กรงหรือพื้นที่เลี้ยง: ถ้าเลี้ยงรวมในกรงใหญ่ เครื่องเล่นอาจไม่จำเป็นมาก แต่ถ้าเลี้ยงเพียงตัวเดียวหรือเป็นคู่เล็ก ๆ ควรมีของเล่นให้ปีนป่าย เคาะเล่น จะช่วยให้น้องไม่เหงาและอารมณ์ดีอยู่เสมอ
  • อาหาร: เมล็ดพืช ข้าวฟ่าง อาหารเม็ดสำหรับนก พร้อมเสริมด้วยผักและผลไม้สด เช่น ผักเคล คะน้า ถั่วลันเตา หรือแอปเปิลฝานบาง ๆ
  • หากระจกหรือเครื่องประดับเล็ก ๆ ให้น้องไว้ส่องเล่น ก็ช่วยให้น้องแฮปปี้ได้ทั้งวัน

3. นกเลิฟเบิร์ด (Lovebird)

สายพันธุ์นกแก้วยอดนิยม นกเลิฟเบิร์ด (Lovebird)

นกเลิฟเบิร์ด (Lovebird) เพื่อนซี้ไซซ์มินิที่มีคู่ตัวติดหนึบจนกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก 

มีสีสันสดใส หลัก ๆ แบ่งได้เป็น 2 แบบ

  • นกเลิฟเบิร์ดมีขอบตา (Eye-ring Lovebird): รอบดวงตามีขอบสีขาวล้อมรอบเป็นวงแหวน ต้องเลี้ยงตั้งแต่เด็กเพราะฝึกให้เชื่องยากกว่า เช่น Masked Lovebird หรือ       นกเลิฟเบิร์ดหัวดำ
  • นกเลิฟเบิร์ดไม่มีขอบตา (Non-eye-ring Lovebird): ดวงตาสีดำสนิท เป็นที่นิยมเพราะเชื่องและเข้ากับเจ้าของได้ดี เช่น Peach-faced Lovebird หรือนกเลิฟเบิร์ดหน้าแดง

ลักษณะนิสัยของนกเลิฟเบิร์ด

น้องเป็นนกแก้วพลังงานสูง ขี้เล่น ร่าเริง และขี้อ้อน ชอบส่งเสียงจิ๊บ ๆ หรือเลียนเสียงพูดเบา ๆ เหมือนคุยกับเจ้าของตลอดเวลา บางช่วงก็จะมีมุมสงบ ชอบอยู่เงียบ ๆ เพื่อพักผ่อน หรือขู่นิด ๆ เมื่อมีใครมารบกวนพื้นที่ส่วนตัว แต่สิ่งที่น่ารักที่สุดคือความรักมั่นคง เพราะน้องชอบอยู่เป็นคู่ คอยดูแลขนให้กัน และจะอยู่เคียงข้างกันไปจนวันสุดท้ายของชีวิต

วิธีการดูแลนกเลิฟเบิร์ดเบื้องต้น

  • พื้นที่เลี้ยง: ควรมีกรงกว้างให้น้องได้บินและขยับปีกอย่างอิสระ หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีเสียงดังหรือฝุ่นเยอะ และควบคุมอุณหภูมิให้พอดี เพราะน้องเลิฟเบิร์ดไวต่อสภาพอากาศง่าย อาจเสี่ยงเป็นไข้หวัดหรือตาแดงได้
  • อาหาร: เมล็ดพืช เสริมด้วยผักและผลไม้ หรือเลือกใช้อาหารเม็ดสำเร็จรูป หลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นพิษต่อนก เช่น อะโวคาโด ช็อกโกแลต หัวหอม และกระเทียม
  • การฝึกและเล่น: พาน้องออกมาฝึกและพูดคุยด้วยทุกวัน ประมาณวันละ 15-30 นาที ให้น้องได้ออกมาจากกรงบ้าง เช่น ให้เกาะมือหรือแขน เพื่อสร้างความคุ้นเคยและความไว้ใจ หาของเล่นเล็ก ๆ มาให้น้องเล่น ก็ช่วยให้น้องมีความสุขและไม่เครียด

4. นกกรีนชีค คอนัวร์ (Green Cheek Conure)

สายพันธุ์นกแก้วยอดนิยม นกกรีนชีค คอนัวร์ (Green Cheek Conure)

นกกรีนชีค คอนัวร์ (Green Cheek Conure) หรือนกคอนัวร์แก้มเขียว จากอเมริกาใต้ เต็มไปด้วยพลังแห่งความสดใส น้องมีหลากหลายสีตามสายพันธุ์ เช่น

  • พายแอปเปิ้ล (Pineapple): ขนสีเขียวสดใส แก้มและโคนหางสีแดง 
  • บลูมาร์เบิล (Blue Marble): ขนสีเขียวอมฟ้ามีลายหินอ่อน แก้มและโคนหางสีแดง
  • ซินาม่อน (Cinnamon): ขนสีน้ำตาลอ่อน แก้มและโคนหางสีแดง

ลักษณะนิสัยของนกกรีนชีค คอนัวร์

น้องกรีนชีคเป็นนกที่เลี้ยงง่ายและเสียงไม่ดังมาก ขี้เล่น ร่าเริง และชอบใช้เวลาอยู่ใกล้เจ้าของเสมอ ฉลาด พูดเก่ง และเลียนเสียงได้ไว ที่สำคัญน้องยังเป็นสายเรียกร้องความสนใจและอาจมีมุมขี้อิจฉาเบา ๆ เวลารู้สึกว่าความรักไปตกอยู่ที่ใครคนอื่น

วิธีการดูแลนกกรีนชีค คอนัวร์เบื้องต้น

  • อาหาร: น้องกินเมล็ดธัญพืชเป็นหลัก เช่น ข้าวโพดและข้าวฟ่าง หรือถั่วเปลือกแข็ง เช่น อัลมอนด์ วอลนัต และเมล็ดมะม่วงหิมพานต์ รวมถึงควรเสริมด้วยผักผลไม้สดเพื่อให้ได้รับวิตามินและแร่ธาตุครบถ้วน
  • สุขภาพ: ควรพาน้องไปตรวจสุขภาพประจำปีเป็นประจำ เพื่อป้องกันโรคที่พบบ่อย เช่น โรคเลือด โรคทางเดินอาหาร และโรคกระดูก
  • การฝึกและสื่อสาร: น้องกรีนชีคฉลาดและชอบพูดคุย สามารถฝึกให้พูดหรือเลียนเสียงได้ โดยทั่วไปน้องจะไม่พูดตลอดเวลา แต่จะพูดเมื่อมีเหตุผล เช่น เวลาหิว อยากเล่น หรืออยากขอบคุณ ควรใช้เวลาฝึกวันละ 15-30 นาที พร้อมให้รางวัลเล็ก ๆ จะช่วยให้น้องเรียนรู้ได้ไวและสนิทกับเรามากขึ้น

5. นกซันคอนัวร์ (Sun Conure)

สายพันธุ์นกแก้วยอดนิยม นกซันคอนัวร์ (Sun Conure)

นกซันคอนัวร์ (Sun Conure) สีแดงสดใสเหมือนแสงอาทิตย์ ปัจจุบันถูกจัดอยู่ในสถานะใกล้

สูญพันธุ์ โดยสหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) แต่ยังไม่ติดไซเตส (CITES) 

จึงสามารถเลี้ยงได้โดยไม่ผิดกฎหมาย

ลักษณะนิสัยของนกซันคอนัวร์

นกซันคอนัวร์เป็นนกที่เข้าสังคมเก่งมาก มักอยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่ประมาณ 15-30 ตัว ชอบ

ส่งเสียง บินเก่งและเร็วมาก อีกหนึ่งความน่ารักคือ รักความสะอาด น้องชอบอาบน้ำและเล่นน้ำเสมอ เพราะช่วยให้น้องสบายตัว ขนนุ่มฟู และอารมณ์ดีทั้งวัน

วิธีการดูแลนกซันคอนัวร์เบื้องต้น

  • อาหาร: ปกติธรรมชาติของน้องจะกินผลไม้ ดอกไม้ ดอกตูม เบอร์รี่ เมล็ดพืช ถั่ว และแมลง ทั้งที่สุกและยังไม่สุก
  • พื้นที่เลี้ยง: ควรมีพื้นที่ให้น้องได้บิน ขยับปีก น้องซันคอนัวร์ชอบเสียงเพลง บางทีก็ร้องหรือเต้นตามจังหวะอย่างอารมณ์ดี ถ้าปล่อยให้บินอิสระ ควรมีคนคอยดูแลใกล้ชิดเพื่อความปลอดภัย อย่าลืมจัดมุมที่ได้รับแสงอัลตราไวโอเลต (UV) อย่างเหมาะสม เพราะแสงนี้ช่วยให้น้องสร้างวิตามินดีในผิวหนัง ซึ่งจำเป็นต่อการดูดซึมแคลเซียมจากอาหาร
  • การขลิบปีก: จริง ๆ แล้ว การขลิบปีกไม่จำเป็น หากเราจัดพื้นที่และดูแลอย่างรอบคอบ แต่ถ้าจำเป็นต้องทำเพื่อป้องกันนกบินหนี ควรให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นคนทำเท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดการบาดเจ็บ

6. นกค็อกคาเทล (Cockatiel)

สายพันธุ์นกแก้วยอดนิยม นกค็อกคาเทล (Cockatiel)

นกค็อกคาเทล (Cockatiel) หรือนกแก้วหงอนฟูจากออสเตรเลีย มีหงอนตั้งและแก้มกลมสีส้ม น้องมีนิสัยน่ารัก ขี้อ้อน หัวไว และชอบวิ่งดุ๊กดิ๊กไปมา เป็นหนึ่งในนกขวัญใจคนรักสัตว์ทั่วโลก

ลักษณะนิสัยของนกค็อกคาเทล

นกค็อกคาเทลขึ้นชื่อเรื่องความอ่อนโยนและเป็นมิตร ชอบให้เจ้าของพูดด้วย เล่นด้วย และชอบเกาะบ่าอยู่ใกล้ ๆ เวลามีความสุขจะส่งเสียงผิวปากหรือฮัมเพลงเบา ๆ พร้อมกับการแกว่งหงอนเล็กน้อย โดยเฉพาะเพศผู้จะร้องเพลงเก่งและเลียนเสียงได้มากกว่าเพศเมีย

วิธีการดูแลนกค็อกคาเทลเบื้องต้น

  • พื้นที่เลี้ยง: นกค็อกคาเทลสามารถอยู่ในกรงได้ ตราบใดที่มีพื้นที่ให้บินและปีนเล่นได้สะดวกสำหรับเลี้ยงสองตัว ควรมีคอนไม้ให้ปีนและใช้เศษไม้รองพื้นกรงเพื่อความสะอาด และอย่าลืมเปิดไฟไว้ตอนกลางคืน เพราะน้องค็อกคาเทลกลัวความมืด
  • อาหาร: ให้อาหารเม็ดสำเร็จรูปที่มีสารอาหารครบถ้วนเป็นหลัก เสริมด้วยผลไม้ ผัก สมุนไพร หรืออาหารโปรตีนอ่อน ๆ เช่น ไข่ต้ม บางครั้งสามารถให้ขนมอย่างลูกเกดหรือผลไม้แห้งได้บ้าง
  • การเข้าสังคมและการฝึก: น้องค็อกคาเทลส่วนใหญ่ไม่ชอบให้กอดหรือลูบแรง ๆ สิ่งที่น้องต้องการคืออยู่ใกล้ ๆ มากกว่า ควรพูดคุยกับน้องเป็นประจำ หรือจั๊กจี้เบา ๆ บ้างก็เพียงพอให้รู้สึกอบอุ่นใจแล้ว

7. นกแก้วแอฟริกันเกรย์ (African Grey Parrot)

สายพันธุ์นกแก้วยอดนิยม นกแก้วแอฟริกันเกรย์ (African Grey Parrot)

ที่สุดของเจ้านกแสนรู้ ต้องนกแก้วแอฟริกันเกรย์ (African Grey Parrot) นกแก้วขนาดกลางสีเทาเข้ม และปากดำ ขึ้นชื่อว่าเป็นนกที่ฉลาดที่สุด จากผลการวิจัย Age and Species Comparisons of Visual Mental Manipulation Ability as Evidence for its Development and Evolution ในปี 2020 พบว่านกแก้วแอฟริกันเกรย์มีทักษะการคิดเทียบเท่าเด็กอายุประมาณ 6-8 ขวบ สามารถเข้าใจคำศัพท์พื้นฐาน จำคำพูด บวกเลข และเลียนเสียงได้ 

ลักษณะนิสัยของนกแก้วแอฟริกันเกรย์

นกแก้วแอฟริกันเกรย์เป็นนกที่ฉลาด ขี้สงสัย และเข้ากับคนได้ง่าย ไม่ชอบอยู่ในกรงเพียงลำพังนาน ๆ เพราะจะรู้สึกเหงาและเครียดได้ง่าย น้องเป็นนกที่ช่างพูดและมีความสามารถในการเลียนเสียงได้ดี โดยทั่วไปจะเริ่มพูดได้เมื่ออายุประมาณ 12-18 เดือน และสามารถจดจำคำศัพท์หรือเสียงต่าง ๆ ได้เป็นร้อยเสียง

วิธีการดูแลนกแก้วแอฟริกันเกรย์เบื้องต้น

  • พื้นที่เลี้ยง: เลือกกรงหรือพื้นที่เลี้ยงที่มีขนาดเหมาะสมและควรหมั่นทำความสะอาดกรงอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการติดเชื้อราและเชื้อแบคทีเรีย รวมถึงปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ที่พบได้บ่อย เช่น การขาดสารอาหาร เนื้องอกมะเร็ง โรคจะงอยปากและขนในนกแก้ว และพยาธิในเลือดหรือระบบทางเดินอาหาร
  • อาหาร: นกแก้วแอฟริกันเกรย์กินผลไม้เป็นหลัก อาหารส่วนใหญ่ควรประกอบด้วยผลไม้ ถั่ว และเมล็ดพืช โดยเฉพาะผลจากปาล์มที่เป็นของโปรดของน้อง นอกจากนี้ยังสามารถกินดอกไม้ เปลือกไม้ รวมถึงแมลงหรือหอยทากเล็ก ๆ ได้บ้าง
  • การฝึกและสร้างความสัมพันธ์: เพื่อให้น้องพัฒนาเต็มศักยภาพ ควรใช้เวลาอยู่ด้วยกันทุกวัน พูดคุยเบา ๆ ฝึกคำพูดง่าย ๆ หรือสอนคำสั่งพื้นฐาน เช่น “มานี่” หรือ “เหยียบมือ” นอกจากนี้ ควรให้ของเล่นเสริมทักษะ เช่น ของเล่นซ่อนอาหาร หรือของเล่นที่ต้องแก้ปัญหาเล็ก ๆ เพื่อฝึกสมองและลดความเครียด

8. นกแก้วแอมะซอน (Amazon Parrot)

สายพันธุ์นกแก้วยอดนิยม นกแก้วแอมะซอน (Amazon Parrot)

นกแก้วแอมะซอน (Amazon Parrot) นกแก้วขนาดกลางถึงใหญ่จากป่าฝนเขตร้อนในอเมริกา มีขนสีเขียวสด แซมด้วยสีสันสดใสอย่างสีเหลือง สีแดง หรือสีน้ำเงินตามแต่ละสายพันธุ์ 

ลักษณะนิสัยของนกแก้วแอมะซอน

นกแอมะซอนขึ้นชื่อเรื่องกินเก่งขั้นสุด เพราะไม่ว่าจะให้เท่าไหร่ น้องก็จะกินหมดชามอยู่ดี แต่ในขณะเดียวกัน น้องก็มีความอินดี้สูง ไม่ใช่นกที่จะล่อหรือฝึกง่าย ๆ ด้วยของกินได้เสมอ ถ้าอยู่ในโหมดไม่อยากให้จับก็จะดื้อเงียบ ๆ แต่พอถึงเวลาที่อยากอ้อนขึ้นมาเมื่อไหร่ จะเดินเข้ามาแบบ

มึน ๆ แล้วก็ทำให้เจ้าของใจละลายได้ทุกครั้ง

วิธีการดูแลนกแก้วแอมะซอน

  • อาหาร: ควรให้อาหารเม็ดสำหรับนกเป็นหลัก พร้อมเสริมด้วยผักและผลไม้สดทุกวัน  ปริมาณอาหารควรปรับตามขนาด อายุ และระดับกิจกรรมของน้อง แต่อย่าลืมระวังการเติมอาหารให้บ่อยเกินไป เพราะน้องแอมะซอนกินเก่งมากและเสี่ยงโรคอ้วนได้ง่าย
  • การอาบน้ำ: นกแก้วแอมะซอนส่วนใหญ่ชอบอาบน้ำมาก สามารถฉีดละอองน้ำอุ่นเบา ๆ ด้วยขวดสเปรย์ หรือวางภาชนะตื้น ๆ ให้น้องลงเล่นน้ำเองก็ได้ บางตัวถึงขั้นชอบอาบน้ำกับเจ้าของด้วย เพียงอาบน้ำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งก็เพียงพอให้น้องอารมณ์ดีและขนสวย

9. นกกระตั้ว/นกค็อกคาทู (Cockatoo)

สายพันธุ์นกแก้วยอดนิยม นกกระตั้ว/นกค็อกคาทู (Cockatoo)

นกกระตั้วหรือนกค็อกคาทู (Cockatoo) เป็นนกแก้วปากคีม ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยหงอนตั้งบนหัว ขนฟูสีขาวแซมด้วยสีเหลืองอ่อนในบางสายพันธุ์ และจะงอยปากขนาดใหญ่

ลักษณะนิสัยของนกกระตั้วหรือนกค็อกคาทู

นกกระตั้วเป็นนกที่ติดเจ้าของและหวงคนที่รักมาก น้องต้องการเวลา ความใส่ใจ และการอยู่ใกล้เจ้าของทุกวัน ถ้าไม่ได้รับความสนใจนานเกินไป อาจเกิดอาการเครียดหรือซึมได้ง่าย ถ้าไม่พอใจหรือถูกขัดใจเมื่อไหร่ จะโวยวายเสียงดังทันที นอกจากนี้ยังมีหงอนบนหัวที่สามารถหุบและกางได้ตามอารมณ์เวลาน้องดีใจจะกางหงอนขึ้นพร้อมส่งเสียงอย่างตื่นเต้น

วิธีการดูแลนกกระตั้วหรือนกค็อกคาทูเบื้องต้น

  • เอกสารและการครอบครอง: เนื่องจากนกกระตั้วเป็นสัตว์ในบัญชีไซเตส (CITES) บางสายพันธุ์จึงจำเป็นต้องมีเอกสารแสดงรายการการซื้อขายที่ระบุข้อมูลสำคัญ เช่น อายุ แหล่งที่มา และรายละเอียดของตัวนก เพื่อใช้ในการแจ้งครอบครองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย 
  • พบสัตวแพทย์: หลังจากรับนกมาเลี้ยง ควรนำไปตรวจสุขภาพและตรวจโรคเบื้องต้นกับสัตวแพทย์พร้อมสอบถามเรื่องอาหารและการดูแลเฉพาะสายพันธุ์ เพื่อความปลอดภัยและสุขภาพที่ดี
  • อาหาร: สำหรับลูกนก ควรป้อนอาหารในปริมาณประมาณ 10% ของน้ำหนักตัวต่อวัน แบ่งเป็น 3-4 มื้อ ต่อวัน เพื่อให้น้องได้รับสารอาหารครบถ้วนและย่อยง่าย
  • สุขภาพและการดูแลร่างกาย: นกกระตั้วต้องได้รับการตัดเล็บและแต่งจะงอยปาก เป็นระยะ ๆ ด้วยสัตวแพทย์หรือนักเพาะเลี้ยงที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อให้สามารถยึดเกาะได้ดี และป้องกันไม่ให้จะงอยปากยาวจนทำร้ายตัวเอง

10. นกแก้วมาคอร์ (Macaw)

สายพันธุ์นกแก้วยอดนิยม นกแก้วมาคอร์ (Macaw)

นกแก้วมาคอร์ (Macaw) เป็นนกแก้วขนาดใหญ่จากทวีปอเมริกาใต้ มีสีสันสดใสอย่างสีแดง สีเหลือง สีน้ำเงิน และสีเขียว มีมากกว่า 18 สายพันธุ์ แต่ละสายพันธุ์มีสีสัน ลักษณะ และเสน่ห์เฉพาะตัว เช่น

  • นกแก้วมาคอร์สการ์เล็ต (Scarlet Macaw): เป็นมาคอร์สีแดงสด ปีกแซมด้วยสีเหลืองและสีเขียว ขนาดตัวประมาณ 80-90 เซนติเมตร ถือเป็นสายพันธุ์ที่หลายคนคุ้นตามากที่สุด
  • นกแก้วมาคอร์สีฟ้าอกเหลือง (Blue and Yellow Macaw): ส่วนท้องและหน้าอกเป็นสีเหลืองทอง ขนาดตัวประมาณ 80-90 เซนติเมตร
  • นกแก้วมาคอร์ปีกเขียว (Green-winged Macaw): มาคอร์ตัวใหญ่ลำตัวสีแดงสด ปีกแซมด้วยสีเขียวเข้ม ขนาดตัวราว 86-94 เซนติเมตร

ลักษณะนิสัยของนกแก้วมาคอร์

นกมาคอร์ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในนกแก้วที่ฉลาด และมีความจำดีมาก สังเกตทุกสิ่งรอบตัวได้แม่นยำ แถมยังภักดีกับเจ้าของเสมอ ใครดีกับน้อง น้องจะจำและผูกพันไม่ลืม แต่ถ้าใครเคยทำให้ไม่พอใจก็จะจดไว้เช่นกัน นกมาคอร์สามารถเรียนรู้คำพูด การแสดงออก และกิจกรรมต่าง ๆ ได้ ทั้งการพูดเลียนเสียง การแสดงท่าทาง 

วิธีการดูแลนกแก้วมาคอร์เบื้องต้น

  • การฝึก: นกมาคอร์เป็นนกแก้วที่ฉลาดมาก และชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ จึงควรได้รับการฝึกอย่างถูกวิธีตั้งแต่ยังเล็ก ทั้งการฝึกให้เชื่อง ฝึกพูดคำง่าย ๆ หรือฝึกทำกิจกรรมต่าง ๆ
  • การดูแลสุขภาพ: นกมาคอร์ควรได้รับการตัดเล็บและดูแลจะงอยปากเป็นระยะและควรอยู่ในกรงที่สะอาด อากาศถ่ายเทดี รวมถึงหมั่นสังเกตพฤติกรรมของน้องอยู่เสมอ เช่น การกิน การขับถ่าย หรือการขยับตัว
  • การอาบน้ำ: มาคอร์เป็นนกที่รักความสะอาดและชอบอาบน้ำมาก ผู้เลี้ยงสามารถใช้น้ำจากฝักบัวฉีดเบา ๆ หรือตั้งภาชนะน้ำให้น้องลงเล่นเอง ในช่วงฤดูฝนควรให้น้องได้อาบน้ำฝนกลางแจ้งบ้าง จะช่วยให้น้องเพลิดเพลินและช่วยลดความเครียดได้ดี

 

ข้อควรรู้ก่อนเลี้ยงนกแก้ว

หญิงสาวมีความสุขท่ามกลางนกแก้ว

1. ศึกษากฎหมายให้เข้าใจก่อนเลี้ยงนก

นกแก้วบางสายพันธุ์จัดอยู่ในบัญชีไซเตส (CITES) ต้องมีเอกสารแสดงการครอบครองที่ถูกต้อง ตามกฎหมาย โดยกำหนดให้ผู้เลี้ยงต้องแจ้งการครอบครองสัตว์ป่าควบคุมบางชนิดต่อเจ้าหน้าที่ภายในระยะเวลาที่กำหนด เช่น นกกระตั้วบางสายพันธุ์ นกแก้วแอมะซอน และนกแก้วสีเทาแอฟริกัน จึงควรควรตรวจสอบให้แน่ใจว่านกที่เลือกมาจากแหล่งเพาะพันธุ์ที่ได้รับอนุญาตและมีใบรับรองถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ ระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ว่าด้วยการแจ้งและการรับแจ้งและการครอบครองฯ พ.ศ. 2565

2. เข้าใจลักษณะนิสัยและวิธีการดูแล

นกแก้วแต่ละสายพันธุ์มีนิสัยที่แตกต่างกัน บางตัวขี้อ้อน บางตัวอินดี้ หรือบางตัวส่งเสียงดังก่อนเลือกเลี้ยง ควรศึกษานิสัย พฤติกรรม และความต้องการของนกแต่ละชนิดให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์และที่อยู่อาศัย เพราะเมื่อได้เจอนกแก้วที่เข้ากันได้ ทั้งคุณและนกก็จะอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข และอย่าลืมว่าเมื่อนกแก้วรักใครเข้าแล้ว เค้าจะภักดีและยากที่จะเปลี่ยนใจจากเจ้าของเลย

3. เตรียมพื้นที่และงบประมาณให้พร้อม

นกแก้วต้องการพื้นที่ ทั้งกรงที่กว้างพอให้ขยับปีก ของเล่น และคอนไม้สำหรับเกาะ อย่าลืมหาชามตื้น ๆ สำหรับใส่น้ำให้น้องได้ลงเล่นเป็นประจำ เพราะการอาบน้ำช่วยให้นกสดชื่น ขนสะอาด และอารมณ์ดีอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังควรเตรียมงบประมาณสำหรับค่าดูแลสุขภาพ และการฝึกฝนต่าง ๆ ด้วย

4. หมั่นสังเกตพฤติกรรมน้องนกเป็นประจำ

โดยธรรมชาติของนกแก้วมักไม่แสดงอาการป่วยให้เห็นชัดเจนในช่วงแรก ๆ เจ้าของจึงควรหมั่นสังเกตพฤติกรรม เช่น การกิน การขับถ่าย เสียงร้อง และการขยับตัว ถ้าน้องดูซึมหรือเงียบผิดปกติ ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพระยะยาว

 

รวมสาระดี ๆ เรื่องสายพันธุ์สัตว์เลี้ยง ด้วยบทความน่ารู้จาก AP Thai

 

เอพีไทยแลนด์ ช่วยเติมเต็มความหมายของชีวิต

เลือกเป็นเจ้าของโครงการบ้านจาก เอพีไทยแลนด์ เพื่อสร้างชีวิตดี ๆ บนพื้นที่ความสุขที่เราเลือกเอง ไม่ว่าจะเป็น โครงการบ้านเดี่ยวพื้นที่กว้างขวางเป็นส่วนตัว ทาวน์โฮมดีไซน์สวยหรือบ้านแฝดฟังก์ชันใหญ่ คอนโดมิเนียมทำเลติดรถไฟฟ้าเดินทางง่าย และโฮมออฟฟิศฟังก์ชันเจ๋งที่รองรับทุกธุรกิจ สามารถเลือกได้ตามต้องการ เพราะ “บ้าน” ไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย

 

EMPOWER LIVING อยู่ .. เพื่อทุกความหมายของคุณ

คำถามที่พบบ่อย

นกแก้วเลี้ยงยากไหม?

  • นกแก้วเลี้ยงไม่ยาก หากเลือกสายพันธุ์ที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง และมีเวลาเอาใจใส่ เพราะนกแก้วมีความฉลาดจึงต้องการการดูแลทั้งด้านจิตใจและสภาพแวดล้อม แต่ไม่เหมาะกับคนที่เลี้ยงเพราะต้องการแค่ชมความน่ารักเฉย ๆ

มือใหม่เลี้ยงนกแก้วสายพันธุ์อะไรดี?

  • สำหรับมือใหม่ ควรเลือกเลี้ยงนกฟอพัส นกเลิฟเบิร์ด นกกรีนชีค คอนัวร์ และนกซันคอนัวร์ เนื่องจากมีนิสัยเป็นมิตร ขนาดไม่ใหญ่ และเลี้ยงง่าย กินง่าย อยู่ง่าย เหมาะกับการเริ่มต้นเลี้ยง

นกแก้วสามารถพูดได้ทุกสายพันธุ์หรือไม่?

  • นกแก้วไม่สามารถพูดได้ชัดเจนทุกสายพันธุ์ บางสายพันธุ์สามารถเลียนเสียง พูดคำง่าย ๆ หรือทำเสียงต่าง ๆ ได้ เช่น นกแก้วแอฟริกันเกรย์ และนกแก้วมาคอร์ แต่บางสายพันธุ์เสียงพูดจะไม่ชัด ทั้งน

เลี้ยงนกแก้วต้องมีใบอนุญาตไหม?

  • ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และกฎหมายท้องถิ่น อย่างในประเทศไทย นกแก้วบางสายพันธุ์อาจถือเป็น สัตว์ป่าควบคุม ภายใต้พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ซึ่งต้องขออนุญาตในการครอบครองหรือขึ้นทะเบียน เช่น นกกระตั้วบางสายพัน