MAIN POINT
- วิธีดับกลิ่นฉี่แมวให้อยู่หมัด สามารถทำได้ง่าย ๆ ตามขั้นตอนดังนี้ เริ่มจากใช้ทิชชูซับฉี่ทันที แล้วใช้น้ำส้มสายชูเจือจางเพื่อลดกลิ่น จากนั้นใช้เครื่องดูดฝุ่นเพื่อขจัดอนุภาคกลิ่นที่ตกค้าง โรยเบกกิ้งโซดาเพื่อช่วยดูดซับกลิ่นเพิ่มเติม และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดกลิ่นสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ ให้ทาสและน้องเหมียวตัวน้อยอยู่ในบ้านได้อย่างสบายใจ
- วิธีป้องกันแมวฉี่ผิดที่ในบ้าน เริ่มจากการทำความสะอาดกลิ่นเก่าให้หมดจด เพื่อไม่ให้น้องเหมียวกลับมาฉี่ซ้ำจุดเดิม จากนั้นเลือกกระบะทรายและทรายแมวที่เหมาะสม จัดวางกระบะทรายในจุดที่เงียบและปลอดภัย ที่สำคัญหากน้องแมวฉี่ผิดที่บ่อย ๆ ควรพาไปพบคุณหมอเพื่อตรวจเช็กสุขภาพด้วยนะ
ดับกลิ่นฉี่แมวในบ้านให้อยู่หมัด พร้อมป้องกันแมวฉี่ผิดที่
น้องแมวเหมียว สัตว์เลี้ยงแสนน่ารักที่มีพฤติกรรมชวนยิ้มอยู่เสมอ แต่ก็มีบางเรื่องเล็ก ๆ ที่เป็นปัญหากวนใจของเหล่าทาสได้ไม่น้อย โดยเฉพาะเรื่อง “กลิ่นฉี่แมว” ยิ่งปล่อยทิ้งไว้นาน กลิ่นยิ่งฝังแน่น และทำให้น้องกลับมาฉี่ซ้ำที่เดิมได้อีก
บทความนี้ AP Thai จะชวนเหล่าทาสทั้งหลายมาทำความเข้าใจพฤติกรรมการฉี่ไม่เป็นที่ของเจ้าเหมียว พร้อมแชร์เคล็ดลับในการกำจัดกลิ่นฉี่ให้อยู่หมัด และวิธีป้องกันไม่ให้น้องฉี่ผิดที่ ให้บ้านเป็นพื้นที่น่าอยู่ของทั้งเจ้าเหมียวและเหล่าทาสทุกคน
ทำความเข้าใจพฤติกรรม แมวฉี่ไม่เป็นที่เกิดจากอะไร
โดยธรรมชาติแล้ว การฉี่ของแมวมีอยู่ 2 แบบ คือ “การฉี่แบบปกติ” ซึ่งเจ้าเหมียวมักจะฉี่ในที่เหมาะสม เช่น กระบะทราย เพื่อขับของเสียออกจากร่างกาย กับ “การสเปรย์ฉี่” หนึ่งในพฤติกรรมการฉี่ไม่เป็นที่ โดยน้องแมวจะฉี่พ่นกระจายตามผนังหรือเฟอร์นิเจอร์ เพื่อสื่อสารบางอย่างตามสัญชาตญาณ
- แสดงอาณาเขต: เมื่อรู้สึกไม่ปลอดภัย เช่น มีแมวตัวใหม่เข้ามาในบ้าน หรือมีใครรุกล้ำพื้นที่ เจ้าเหมียวอาจสเปรย์ฉี่เพื่อประกาศว่า “นี่คือถิ่นของฉันนะ”
- เครียดหรือกังวลใจ: หากน้องต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลง เช่น ย้ายบ้าน เผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่ชอบ วางกระบะทรายในจุดที่ไม่คุ้นเคย หรือกระบะทรายสกปรกเกินไป น้องอาจสื่อสารกับทาสว่า “เครียดนะ ช่วยเคลียร์ให้หน่อย”
- เรียกร้องความสนใจจากเพศตรงข้าม: ในช่วงติดสัด น้องแมวมักสเปรย์ฉี่ เพื่อปล่อยฟีโรโมนดึงดูดเพศตรงข้ามเป็นภาษารักแบบแมว ๆ ว่า “พร้อมแล้วนะ”
5 วิธีดับกลิ่นฉี่แมว พร้อมเคล็ดลับกำจัดกลิ่นให้อยู่หมัด
1. ใช้ทิชชูซับฉี่ทันที
วิธีดับกลิ่นฉี่แมวง่าย ๆ เมื่อเหล่าทาสบังเอิญเจอน้องเหมียวเพิ่งฉี่ลงบนพรมหรือพื้นผิว ให้รีบใช้กระดาษทิชชูค่อย ๆ ซับของเหลวออกทันที ทำซ้ำประมาณ 2-3 ครั้ง และหลีกเลี่ยงการถูหรือขัดแรง ๆ เพราะจะยิ่งทำให้ของเหลวกระจายและกลิ่นติดแน่น ทำความสะอาดได้ยากขึ้นในภายหลัง
2. ใช้น้ำส้มสายชูเจือจางเพื่อลดกลิ่นฉี่
นำน้ำส้มสายชูผสมน้ำร้อนในอัตรา 1:1 แล้วราดบริเวณที่น้องชอบอึหรือฉี่ กรดในน้ำส้มสายชูจะทำปฏิกิริยากับฉี่แมว ช่วยดับกลิ่นอึและฆ่าเชื้อโรคไปในตัว จากนั้นใช้แปรงสีฟันหรือแปรงขนอ่อนค่อย ๆ ถูเบา ๆ แล้วซับให้แห้งสนิทด้วยทิชชูหรือผ้าสะอาด เท่านี้บ้านก็กลับมาหอมสดชื่นได้อีกครั้ง
สำหรับทาสแมวที่ชอบกลิ่นซิตรัส ลองใส่เปลือกส้มลงในขวดโหล เติมน้ำส้มสายชูให้ท่วม หมักไว้ 2 สัปดาห์ กรองเอาแต่น้ำมาผสมน้ำเปล่า 1:1 ใส่ขวดสเปรย์ แล้วฉีดลงบนพื้นผิวจนชุ่ม กลิ่นหอมธรรมชาติจะช่วยดับกลิ่นฉี่แมว และลดโอกาสที่น้องจะกลับมาฉี่ซ้ำที่เดิมได้อีกด้วย
3. ใช้เครื่องดูดฝุ่นเพื่อกำจัดอนุภาคกลิ่นฉี่
หลังจากซับฉี่น้องแมวออกแล้ว หากในบ้านมีเครื่องดูดฝุ่นแบบดูดได้ทั้งแห้งและเปียก (Wet-dry Vacuum) ก็อย่าลืมหยิบมาใช้เป็นตัวช่วยดับกลิ่นฉี่แมวอีกสักรอบ เพราะเครื่องดูดฝุ่นประเภทนี้สามารถดูดซับของเหลวและกำจัดอนุภาคกลิ่นที่แทรกอยู่ในพรมหรือพื้นผิวได้ลึกกว่าการเช็ดทั่วไป และที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องเป่าลมร้อนเป่าบริเวณที่เปื้อนฉี่ เพราะความร้อนอาจทำให้อนุภาคกลิ่นติดแน่นเข้าไปในเส้นใยพรมหรือผ้า จนยิ่งทำความสะอาดออกยากกว่าเดิม
4. ใช้เบกกิ้งโซดา เพื่อเสริมการดูดกลิ่นฉี่
นำน้ำกับเบกกิ้งโซดาผสมในอัตราส่วน 1:1 แล้วเทใส่ขวดสเปรย์ จากนั้นฉีดลงบริเวณที่น้องแมวฉี่ให้ทั่ว ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วจึงเช็ดออกให้สะอาด หรืออีกวิธีหนึ่งคือนำเบกกิ้งโซดาแบบแห้งโรยบนจุดที่น้องชอบฉี่บ่อย ๆ เพื่อช่วยดูดซับกลิ่นให้หมดจด จากนั้นใช้เครื่องดูดฝุ่นแบบแห้งและเปียกดูดทั้งผงเบกกิ้งโซดาและความชื้นออกจากพรมให้เรียบร้อย
สาเหตุที่ฉี่แมวมักมีกลิ่นแรง มาจากสารหลายชนิด เช่น กรดยูริก ยูเรีย อิเล็กโทรไลต์ และสารของเสียอื่น ๆ ที่ถูกขับออกมา โดยเฉพาะยูเรียที่สัมผัสอากาศแล้วจะกลายเป็นแอมโมเนีย เมื่อผสมกับแบคทีเรียจะปล่อยสารที่เรียกว่า Mercaptans แต่เบกกิ้งโซดาซึ่งเป็นเบสอ่อน ๆ และเป็นแอมโฟเทอริก จะช่วยดูดซับกลิ่นและยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย แถมยังปลอดภัยกับน้องอีกด้วย
5. ใช้ผลิตภัณฑ์ดับกลิ่นสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ
ใช้ผลิตภัณฑ์ดับกลิ่นฉี่แมว ที่ออกแบบมาให้เป็นมิตรกับทั้งเจ้าเหมียวและเหล่าทาส อย่าง Enzyme Cleaner น้ำยาทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของเอนไซม์ โดยควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีแอมโมเนีย เพราะกลิ่นจะคล้ายกับฉี่แมว อาจทำให้น้องสับสนและกลับมาฉี่ซ้ำที่เดิมตามสัญชาตญาณได้ ทั้งนี้หากมีคราบที่ฝังแน่น ควรทำความสะอาดให้เรียบร้อย แล้วค่อยใช้ผลิตภัณฑ์ช่วยดับกลิ่นเพิ่มเติม
รวมวิธีป้องกันแมวฉี่ผิดที่ในบ้าน จบปัญหากลิ่นกวนใจ
1. ฝึกแมวให้ฉี่เป็นที่
การฝึกน้องแมวให้ฉี่เป็นที่ ควรเริ่มตั้งแต่น้องยังเล็กเป็นลูกแมว โดยเลือกกระบะทรายที่มีขนาดเหมาะสม วางไว้ในจุดที่เงียบ ไม่มีเสียงรบกวน ฝึกครั้งละไม่เกิน 10-15 นาที เพื่อไม่ให้น้องรู้สึกกดดัน และถ้าน้องฉี่ถูกที่แล้ว อย่าลืมให้รางวัล อย่างขนมหรือคำชมเบา ๆ เพื่อให้น้องจดจำพฤติกรรมที่ดีไว้
แต่หากเจ้าเหมียวเผลอฉี่ผิดที่ ทาสก็อย่าเพิ่งดุ และไม่ควรใช้การลงโทษ เช่น งดอาหารหรือเสียงดังใส่ เพราะอาจทำให้น้องเครียดจนไม่กล้าเข้าใกล้กระบะทราย ควรเบี่ยงเบนพฤติกรรมด้วยความอ่อนโยน เมื่อฝึกอย่างสม่ำเสมอ เจ้าเหมียวก็จะเรียนรู้และฉี่เป็นที่ได้
2. ทำความสะอาดกลิ่นเก่าให้หมดจด
ด้วยสัญชาตญาณของเจ้าเหมียวที่มีประสาทรับกลิ่นไวมาก และมักใช้การฉี่เพื่อแสดงอาณาเขต หากน้องเคยฉี่ไว้ตรงไหน แม้ว่าตรงนั้นจะผิดที่ แต่ถ้ากลิ่นยังคงอยู่ เจ้าเหมียวก็อาจกลับมาฉี่ซ้ำจุดเดิมอีกครั้ง เพราะเข้าใจว่าคือพื้นที่ของตัวเอง ดังนั้นทาสทั้งหลายอย่าลืมทำความสะอาดจุดที่น้องเคยฉี่ให้หมดจด เพื่อป้องกันไม่ให้น้องแมวกลับมาฉี่ผิดที่ซ้ำ ๆ แบบไม่รู้ตัว
3. เลือกกระบะทรายและทรายแมวให้เหมาะสม
แมวเป็นสัตว์รักความสะอาดและชอบพื้นที่ปลอดภัย เงียบสงบ โดยเฉพาะเวลาทำธุระส่วนตัว หากกระบะทรายเล็กเกินไป มีกลิ่นแปลก หรือทรายหยาบ น้องอาจไม่สบายใจจนเลือกไปฉี่ผิดที่แทน ดังนั้นการเลือกกระบะทรายและทรายแมวให้เหมาะสมกับน้องจึงเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ
วิธีเลือกกระบะทรายให้เหมาะกับแมว
- ขนาดพอดี ใช้งานสะดวก: เลือกขนาดกระบะทรายที่น้องสามารถหมุนตัว ขุดกลบได้สะดวก โดยควรยาวกว่าลำตัวน้องประมาณ 1.5 เท่า และมีขอบเตี้ยพอให้น้องปีนเข้า-ออกได้ง่าย โดยเฉพาะแมวเด็ก หรือแมวสูงวัย
- ประเภทกระบะทรายที่น้องแมวชอบ: ปัจจุบันมีกระบะทรายให้เลือกหลากหลายแบบ ทั้งแบบเปิด แบบปิด หรือแบบอัตโนมัติ แต่เจ้าเหมียวส่วนใหญ่มักชอบแบบเปิดมากกว่า เพราะรู้สึกปลอดภัยและสามารถมองเห็นรอบตัวได้ตามสัญชาตญาณนักล่า แต่แมวก็มีนิสัยเฉพาะตัว ทาสอาจลองให้น้องทดลองใช้หลายแบบดูก่อน เพื่อหากระบะที่น้องใช้แล้วแฮปปี้ที่สุด
วิธีเลือกประเภททรายเแมวให้เหมาะกับลักษณะของแมว
- ทรายแมวไม่จับเป็นก้อน: เหมาะกับบ้านที่มีแมวหลายตัวหรือเลี้ยงในกรง ราคาถูก มักทิ้งความชื้น ทำให้เกิดกลิ่นเหม็น ตักทิ้งยาก ต้องเปลี่ยนทั้งกระบะบ่อย ๆ
- ทรายแมวภูเขาไฟ หรือเบนโทไนต์: ผลิตจากเบนโทไนต์ เมื่อโดนฉี่แล้วจะจับตัวเป็นก้อน เกาะตัวแน่น ตักทิ้งสะดวก แต่ติดเท้าแมว จึงไม่เหมาะกับแมวที่แพ้ฝุ่นหรือชอบเลียอุ้งเท้า
- ทรายแมวจากพืช: เหมาะกับแมวที่แพ้ง่าย ชอบเลียหรือคุ้ย ช่วยดับกลิ่น ปลอดภัย แถมยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะทำมาจากเศษไม้สน เต้าหู้ หรือกากถั่ว ดูดซึมดี แต่มีราคาสูง
- ทรายแมวคริสตัล (ซิลิก้าเจล): เหมาะกับแมวที่ฉี่มีกลิ่นแรงและทาสที่ไม่สะดวกเปลี่ยนทรายบ่อย ใช้ได้นานและน้ำหนักเบา แต่ไม่เหมาะกับแมวขนยาว
- ทรายแมวซีโอไลต์: เหมาะกับแมวกินเก่ง ขับถ่ายบ่อย และทาสเลี้ยงในพื้นที่จำกัด เพราะดูดกลิ่นไว แห้งเร็ว ใช้คู่กับแผ่นรองซับได้เลย ไม่ต้องตักทิ้งทุกวัน แถมไม่ค่อยติดเท้าน้องแมว
- ทรายแมวผสมชาโคล: เหมาะกับแมวที่ฉี่มีกลิ่นแรง ดับกลิ่นฉี่แมวได้ดี จับตัวเป็นก้อนเร็วเมื่อเปียก ไม่แตกเป็นผง ตักทิ้งง่าย ไม่มีฝุ่น และยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น
4. วางกระบะทรายให้เพียงพอและวางในจุดที่เหมาะสม
แมวเป็นสัตว์รักความเป็นส่วนตัวสุด ๆ โดยเฉพาะเวลาทำธุระ ดังนั้นการวางกระบะทรายให้เพียงพอ และเลือกจุดที่น้องรู้สึกปลอดภัย จึงเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้การเลือกชนิดของกระบะหรือทรายเลย
- จำนวนกระบะเพียงพอ: กฎง่าย ๆ ที่ทาสควรรู้คือ “จำนวนแมว + 1” เช่น ถ้ามีแมว 2 ตัว ควรมีกระบะทรายอย่างน้อย 3 ใบ เพื่อให้น้องไม่ต้องแย่งกัน และลดโอกาสเกิดความเครียดจากการใช้พื้นที่ร่วมกัน
- ตำแหน่งต้องถูกใจเจ้าเหมียว: วางกระบะทรายไว้ในจุดที่เงียบ สงบ อากาศถ่ายเท และห่างจากเครื่องใช้เสียงดัง เช่น เครื่องซักผ้า ทีวี หรือเครื่องดูดฝุ่น เพราะเสียงรบกวนจะทำให้น้องไม่กล้าเข้าใกล้ รวมถึงควรเลือกตำแหน่งที่เข้าถึงง่าย มีแสงสว่างพอเหมาะ และไม่ย้ายกระบะทรายไปมาบ่อย ๆ สำหรับทาสที่มีพื้นที่จำกัด อย่างเลี้ยงแมวในคอนโด วางกระบะทรายในห้องน้ำก็เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะทำความสะอาดได้ง่าย
- หลีกเลี่ยงการวางใกล้ชามอาหารหรือน้ำ: เจ้าเหมียวไม่ชอบขับถ่ายใกล้ที่กิน ถ้าวางกระบะทรายใกล้อาหารหรือชามน้ำ น้องอาจรู้สึกไม่สบายใจ แล้วเลือกไปหามุมอื่นแทน แถมยังเสี่ยงของเสียไปปนเปื้อนในอาหารและน้ำของน้องด้วย
5. ดูแลกระบะทรายให้สะอาดอยู่เสมอ
การดูแลกระบะทรายของน้องแมวให้สะอาดอยู่เสมอเป็นสิ่งที่ทาสไม่ควรมองข้าม เพราะเจ้าเหมียวรักความสะอาดมาก หากกระบะทรายมีกลิ่นไม่พึงประสงค์หรือเริ่มสกปรก น้องอาจเลือกไม่ใช้และฉี่ผิดที่ได้ เพื่อให้น้องรู้สึกดีทุกครั้งที่ทำธุระ ทาสควรตักอึและฉี่ออกวันละ 1-2 ครั้ง ล้างกระบะด้วยน้ำสบู่อ่อนหรือผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย และเปลี่ยนทรายใหม่ทั้งหมดทุก 1-2 สัปดาห์ พร้อมเติมทรายให้สูงอย่างน้อย 3 เซนติเมตร ให้น้องขุดกลบได้อย่างสบายใจ
6. ดูแลให้แมวรู้สึกปลอดภัย ไม่เครียด
แมวอาจดูนิ่ง ๆ แต่จริง ๆ แล้วน้องไวต่อความรู้สึกมาก แม้ความเครียดเพียงเล็กน้อย เช่น เจ้าของไม่ค่อยอยู่บ้าน รู้สึกถูกเมิน ถูกขัดใจบ่อย ๆ หรือบรรยากาศรอบตัวไม่น่าปลอดภัย ก็อาจทำให้น้องเกิดพฤติกรรมฉี่ผิดที่ออกมา เหมือนกระซิบเบา ๆ ว่า “หนูไม่โอเคนะ” ทาสจึงควรหมั่นสังเกตอารมณ์น้อง พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน หาของเล่นมาเล่นด้วย และแบ่งเวลาให้ความรักอยู่เสมอ เพื่อให้น้องรู้สึกปลอดภัยและพร้อมแสดงพฤติกรรมน่ารัก ๆ ให้ทาสเห็นทุกวัน
7. พาแมวไปหาสัตวแพทย์หากฉี่ผิดที่บ่อย
หากสังเกตว่า เจ้าเหมียวเริ่มฉี่ผิดที่บ่อย ๆ บางครั้งพฤติกรรมแบบนี้อาจเป็นสัญญาณขอความช่วยเหลือที่บอกเราว่า น้องอาจมีปัญหาสุขภาพซ่อนอยู่ ทางที่ดีที่สุดคือ พาไปพบสัตวแพทย์ เพื่อตรวจเช็กสุขภาพและแก้ปัญหาได้ตรงจุด
- ฮอร์โมนเพศและพฤติกรรมติดสัด: การทำหมันสามารถช่วยลดฮอร์โมนที่กระตุ้นให้แมว โดยเฉพาะแมวตัวผู้ที่สเปรย์ฉี่ เพื่อแสดงอาณาเขต
- ปัญหาสุขภาพภายในที่เหล่าทาสมองไม่เห็น: มีรายงานว่า แมวกว่า 30% ที่มีพฤติกรรมสเปรย์ฉี่มักมีอาการเจ็บป่วยแฝงอยู่ เช่น โรคไต กระเพาะปัสสาวะอักเสบ โรคนิ่ว หรือการติดเชื้อไวรัสบางชนิด
รวมสาระดี ๆ เรื่องเลี้ยงแมวในบ้าน ด้วยบทความน่ารู้จากเอพีไทย
- วิธีเลี้ยงแมวในบ้าน สำหรับทาสมือใหม่ เลี้ยงแมวอย่างไรให้ฉลาด
- รวมทริกกั้นห้องแมวในบ้านและคอนโด แฮปปี้ทั้งคนและเจ้าเหมียว
- บอกต่อ! วิธีแก้ห้องเหม็นอับ ให้กลับมาหอมสะอาดสดชื่น
ดับกลิ่นฉี่แมวให้อยู่หมัด ก็สุขใจทั้งเหล่าทาสและเจ้าเหมียว
ด้วยความรักที่ยิ่งใหญ่ของเหล่าทาส ปัญหากลิ่นฉี่ของเจ้าเหมียวก็กลายเป็นเรื่องเล็กน้อยได้ แค่เช็ดให้ไว แล้วใช้ตัวช่วย อย่างน้ำส้มสายชูเจือจาง เบกกิ้งโซดา เครื่องดูดฝุ่น และผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ เพื่อดับกลิ่นฉี่แมวให้อยู่หมัด รวมถึงหมั่นดูแลจุดที่น้องใช้งานเป็นประจำ เพียงเท่านี้บ้านก็สะอาด น้องแมวอยู่สบาย เหล่าทาสก็แฮปปี้ได้ทุกวัน
เอพีไทยแลนด์ ช่วยเติมเต็มความหมายของชีวิต
เลือกเป็นเจ้าของโครงการบ้านจาก เอพีไทยแลนด์ เพื่อสร้างชีวิตดี ๆ บนพื้นที่ความสุขที่เราเลือกเอง ไม่ว่าจะเป็น โครงการบ้านเดี่ยวพื้นที่กว้างขวางเป็นส่วนตัว ทาวน์โฮมดีไซน์สวยหรือบ้านแฝดฟังก์ชันใหญ่ คอนโดมิเนียมทำเลติดรถไฟฟ้าเดินทางง่าย และโฮมออฟฟิศฟังก์ชันเจ๋งที่รองรับทุกธุรกิจ สามารถเลือกได้ตามต้องการ เพราะ “บ้าน” ไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย
EMPOWER LIVING อยู่ .. เพื่อทุกความหมายของคุณ