KNOW HOW
  • FINANCIAL

อยากกู้เงินรีโนเวทบ้านควรรู้ ! 4 ขั้นตอนขอสินเชื่อตกแต่งบ้าน

บทความที่จะมาแนะนำการเตรียมตัวกู้สินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการรีโนเวทบ้าน ต่อเติม หรือซ่อมแซม รวมทั้งวิธีการเลือกประเภทเงินกู้ ควรเลือกแบบไหนที่เหมาะกับคุณ!

AP THAILAND

AP THAILAND

ขั้นตอนขอสินเชื่อตกแต่งบ้าน

Main Points

 

  • ขั้นตอนการกู้เงินรีโนเวทบ้าน เริ่มตั้งแต่วางแผนการปรับปรุงกำหนดงบประมาณ เลือกประเภทสินเชื่อที่เหมาะสม วางแผนสภาพคล่องทางการเงินให้ดี จากนั้นก็เตรียมเอกสารให้พร้อมและเข้ายื่นกับสถาบันทางการเงินได้เลย
  • ถึงจะเป็นบ้านที่อยู่ระหว่างผ่อนชำระ ก็ยังสามารถกู้รีโนเวทบ้านได้ โดยธนาคารจะพิจารณาวงเงินจากการประเมินจดจำนอง และถ้าเป็นบ้านที่ผ่อนหมดแล้วก็สามารถยื่นกู้ได้เลย

 

บ้านทุกหลังพออยู่อาศัยมาสักระยะ ก็อาจจะมีจุดที่ทรุดโทรมและต้องการปรับปรุง เพื่อให้ตอบโจทย์รูปแบบการใช้ชีวิต แต่เพราะการปรับปรุงบ้านนั้นก็ต้องใช้เงินจำนวนไม่น้อย บางครอบครัวเลยต้องกู้เงินรีโนเวทบ้าน 

 

ทางเลือกที่ดีเจ้าของบ้านควรทำเรื่องกู้สินเชื่อตกแต่งบ้าน จะช่วยให้วางแผนทางการเงินได้สะดวกมากขึ้น ในปัจจุบันทางธนาคารก็มีสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการรีโนเวทบ้านหลายธนาคาร มาดูกันขั้นตอนขอสินเชื่อตกแต่งบ้านจะมีอะไรกันบ้าง!

 

 

4 ขั้นตอนขอสินเชื่อตกแต่งบ้าน กู้เงินรีโนเวทบ้านให้ผ่านฉลุย

 

การขอสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการกู้เงินรีโนเวทบ้าน มีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก เพียงแค่ต้องเตรียมตัวเรื่องเอกสาร ติดต่อธนาคาร และคอยดูแลสภาพคล่องทางการเงินไม่ให้ติดขัด จะทำให้ขอสินเชื่อตกแต่งบ้านได้อย่างราบรื่น สำหรับขั้นตอนการขอสินเชื่อเพื่อใช้ปรับปรุงบ้านให้ผ่านฉลุยมีดังนี้

 

1. วางแผนและกำหนดงบประมาณ

วางแผนออกแบบรีโนเวทบ้าน

 

ก่อนจะรีโนเวทบ้านแน่นอนว่าสิ่งแรกที่ควรจะคำนึงถึงก่อนเลยก็คือ 

 

  • จุดประสงค์ในการรีโนเวท กำหนดจุดประสงค์กันก่อนเลยว่าต้องการรีโนเวทบ้านเพื่ออะไร เช่น ปรับปรุงเพื่อให้ปลอดภัยต่อผู้สูงอายุ ตกแต่งใหม่ตามสไตล์ที่ชอบ จะช่วยให้กำหนดรายละเอียดและค่าใช้จ่ายได้ง่ายขึ้น
  • วางแผนกำหนดงบประมาณ พอเลือกได้แล้วว่าจะรีโนเวทบ้านเพื่ออะไร ก็ลองวางแผนกำหนดงบประมาณกันดูก่อนว่าจะมีค่าใช้จ่ายด้านไหนบ้าง เช่น ค่าออกแบบบ้าน ค่าปรับปรุงโครงสร้างบ้าน ค่าเฟอร์นิเจอร์ ค่าตกแต่งภายใน และค่าใช้จ่ายด้านอื่นๆ อีก
  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เมื่อได้แผนคร่าวๆ แล้วก็ลองนำไปให้ผู้เชี่ยวชาญทางการเงินช่วยประเมินว่า หากเป็นการตกแต่ง ปรับปรุงบ้านในลักษณะนี้ ต้องใช้งบประมาณเท่าไร ซึ่งการขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญสามารถช่วยให้รู้งบประมาณที่ใกล้เคียงกับค่าใช้จ่ายจริงได้

 

2.  เลือกประเภทการกู้ที่เหมาะสม

การกู้ยืมเงิน

 

ก่อนตัดสินใจขอสินเชื่อตกแต่งบ้าน หรือกู้เงินรีโนเวทบ้านจากสถาบันการเงิน ทุกคนควรศึกษาเกี่ยวกับประเภทเงินกู้กันเสียก่อน จะได้เลือกให้เหมาะสมกับความต้องการ เพราะรูปแบบการกู้เงินนั้นมีหลากหลาย ทั้งแบบระยะยาว ระยะสั้น ตามไปดูกันได้เลยว่าประเภทของสินเชื่อสำหรับการตกแต่งบ้านนั้นมีแบบไหนบ้าง

 

  • สินเชื่อแบบวงเงินกู้ระยะยาว

หนึ่งในสินเชื่อตกแต่งบ้านที่ได้รับความนิยมคือ แบบวงเงินกู้ระยะยาว หรือสินเชื่อที่มีการผ่อนชำระมากกว่า 5 ปี ส่วนใหญ่แล้วนิยมยื่นกู้รีโนเวทบ้าน หรือลงทุนในสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งวงเงินกู้จะพิจารณาตามความเหมาะสม และใช้อสังหาริมทรัพย์เป็นหลักค้ำประกัน ซึ่งสินเชื่อประเภทนี้จะมีดอกเบี้ยต่ำ ถือได้ว่าเป็นจุดเด่นสำคัญของสินเชื่อประเภทนี้

 

  • สินเชื่อกู้ต่อเติมหรือซ่อมแซมบ้าน

การกู้เงินรีโนเวทบ้าน หรือการขอสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการต่อเติม ซ่อมแซมบ้านโดยเฉพาะมีจุดเด่นคือ ดอกเบี้ยถูกแบบลดต้นลดดอก และได้วงเงินสูงมาก ผ่อนจ่ายสบายๆ แต่ก็อาจจะมีเงื่อนไขเล็กน้อย เช่น หากเป็นบ้านที่มีภาระผ่อนจะไม่สามารถยื่นกู้เงินรีโนเวทบ้านได้ 

หากจำเป็นต้องกู้รีโนเวทบ้านจริงๆ ก็นำบ้านมาเป็นหลักค้ำประกันกับธนาคารได้ และควรเลือกยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารเดิมที่เคยมีประวัติการกู้ เพราะธนาคารจะเช็กประวัติได้ ทำให้ขอสินเชื่อได้สะดวกขึ้น สำหรับบ้านที่ปลอดภาระหนี้ ธนาคารจะเป็นผู้ประเมินเงินกู้ให้เอง

 

  • รีไฟแนนซ์

การรีไฟแนนซ์บ้านเป็นการยื่นกู้สินเชื่อกับธนาคารแห่งใหม่ เพื่อลดภาระเรื่องดอกเบี้ย ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์บ้านทำได้ง่ายๆ เพียงตรวจสอบสัญญาเงินกู้ว่าจะเริ่มทำได้ช่วงไหน ส่วนใหญ่จะเริ่มรีไฟแนนซ์บ้านเมื่อผ่อนบ้านไปแล้ว 3 ปี และเลือกธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยถูกสุดเพื่อช่วยให้ประหยัดการจ่ายค่าดอกเบี้ย จะช่วยลดดอกเบี้ยบ้านต่ำลง ลดระยะเวลาในการผ่อนต่อเดือน อีกทั้งยังสามารถขอวงเงินกู้เพิ่มได้ด้วย

 

  • สินเชื่อวงเงินกู้เกินบัญชี

สินเชื่อวงเงินกู้เกินบัญชี หรือวงเงินกู้ระยะสั้น จะเป็นการกู้เงินที่ทำให้คุณสามารถเบิกเงินมาใช้จ่ายได้แม้จะไม่มีเงินในบัญชี โดยการคิดดอกเบี้ยจะอิงตามเรทดอกเบี้ยลอยตัว MLR หรือ MOR ขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคาร โดยธนาคารจะคิดดอกเบี้ยจากการเบิกเงินใช้จริงเท่านั้น ข้อดีของสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายวงเงินกู้เกินบัญชีนี้คือ สะดวกและยืดหยุ่น ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ในการค้ำประกัน สำหรับข้อจำกัดคือ ผู้กู้ขอสินเชื่อควรมีประวัติการผ่อนชำระที่ดี

 

3. เลือกแหล่งสถาบันการเงินที่คุ้มค่า น่าเชื่อถือ

ธนาคาร

 

เมื่อถึงเวลาเลือกสถาบันการเงินสำหรับกู้เงินรีโนเวทบ้าน ควรเลือกสถาบันการเงินที่น่าเชื่อถือ และเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยของแต่ละธนาคาร เพื่อหาธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยต่ำที่สุด แต่ก็อย่าลืมดูความน่าเชื่อถือของสถาบันทางการเงินหรือธนาคารนั้นด้วย รวมทั้งการตรวจสอบเงื่อนไขในการขอสินเชื่ออย่างละเอียด เพราะแต่ละธนาคารก็จะมีเงื่อนไขหรือข้อจำกัดที่แตกต่างกัน ซึ่งการศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดจะทำให้คุณสามารถขอสินเชื่อได้อย่างคุ้มค่า และไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะตามมา

 

 4. เตรียมเอกสาร เข้าขอยื่นกู้

การจัดการสภาพคล่องทางการเงิน

 

แน่นอนว่าเป็นเรื่องกู้เงินรีโนเวทบ้านกับธนาคาร ก็ต้องมีเอกสารเข้ามาเกี่ยวข้อง ควรจะศึกษารายละเอียดของเอกสารว่าจะต้องเตรียมอะไรไว้บ้าง เพื่อให้ธนาคารพิจารณาและอนุมัติได้อย่างรวดเร็ว เพราะหากไม่เตรียมเอกสารให้พร้อมอาจจะต้องเสียเวลาและทำให้ใช้ระยะเวลานานขึ้นกว่าเดิม อย่างไรก็ตามการกู้เงินเพื่อรีโนเวทบ้านของแต่ละธนาคารอาจจะมีเงื่อนไขเรื่องเอกสารที่แตกต่างกัน เราลองมาดูกันว่าเอกสารเบื้องต้นที่ต้องเตรียมนั้นจะมีอะไรบ้าง  

 

  • สำเนาทะเบียนบ้าน
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
  • สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 6 เดือน
  • สำเนาโฉนดที่ดิน
  • สัญญาว่าจ้างในการปลูกสร้าง
  • รายการเอกสารพัสดุที่ใช้ก่อสร้าง
  • ใบอนุญาตในการก่อสร้าง ดัดแปลงอาคาร 

 

กู้เงินรีโนเวทบ้านมีเงื่อนไขอะไรที่ควรรู้ไว้ก่อนบ้าง?

การขอสินเชื่อ

 

1. บ้านที่ยังมีภาระผ่อน

สำหรับบ้านไหนที่ยังต้องผ่อนชำระกับธนาคารอยู่ จะถือว่าเป็นบ้านที่มีภาระผ่อน ถ้าอยากขอสินเชื่อตกแต่งบ้าน ธนาคารจะพิจารณาวงเงินให้ไม่เกินวงเงินประเมินที่จดจำนองมาในตอนแรก โดยดอกเบี้ยจากการกู้เงินรีโนเวทบ้านก็จะใกล้เคียงกับดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน

2. บ้านที่ปลอดภาระผ่อน 

บ้านไหนที่ผ่อนหมดแล้ว หากต้องการกู้เงินรีโนเวทบ้านก็สามารถใช้ตัวบ้านยื่นเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันได้เลย โดยธนาคารจะพิจารณาให้วงเงินแบบบ้านแลกเงิน ซึ่งจะมีดอกเบี้ยค่อนข้างสูง แต่ว่าขั้นตอนการยื่นขอสะดวกกว่า และยังไม่จำกัดรูปแบบการใช้เงินอีกด้วย

 

 

รู้ไว้ไม่เสียใจ! จะกู้เงินรีโนเวทบ้านกำหนดงบยังไงไม่ให้บานปลาย

การต่อเติมหรือรีโนเวทบ้าน นอกจากจะศึกษาเรื่องการขอสินเชื่อตกแต่งบ้านแล้ว หากไม่อยากให้งบประมาณบานปลาย จำเป็นต้องควบคุมจัดการให้ดี ซึ่งก่อนจะรีโนเวทมีทริคที่ควรรู้ เพื่อช่วยให้เชฟค่าใช้จ่ายไม่ให้เกินตัว!

การรีโนเวทบ้าน

 

  1. วางแผนในการต่อเติม เนื่องจากการต่อเติมหรือรีโนเวทจำเป็นต้องใช้งบประมาณที่ค่อนข้างมาก ซึ่งหากต้องการควบคุมงบประมาณส่วนนี้ ควรจะแจกแจงและวางแผนว่าส่วนไหน หรือบริเวณไหนของบ้านที่ควรได้รับการปรับปรุงต่อเติม เพื่อให้จัดสรรพื้นที่และควบคุมงบประมาณได้ง่ายขึ้น
  2. เลือกผู้รับเหมาที่น่าเชื่อถือ ควรเลือกผู้รับเหมาที่เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ โดยให้ช่างเข้ามาประเมินหน้างาน ว่าในการต่อเติม รีโนเวทครั้งนี้ควรใช้งบประมาณเท่าไร ควรจะเปรียบเทียบราคาผู้รับเหมาแต่ละเจ้าด้วย ก่อนการตกลงทำงานควรจะแจ้งรายละเอียดของงาน ระยะเวลางานที่คาดว่าจะเสร็จ รวมทั้งค่าใช้จ่ายให้ชัดเจน เพื่อให้มั่นใจว่างานที่ได้จะออกมาตรงใจ และงบประมาณไม่บานปลาย 
  3. ขออนุญาตต่อเติมโครงสร้างบ้าน ขั้นตอนนี้หากเป็นโครงการหมู่บ้านจัดสรรย่อมมีกฎเกณฑ์ข้อห้ามในการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง เพื่อความปลอดภัยของตัวบ้านที่ทางโครงการได้กำหนดมาช่วงก่อนสร้างแล้ว ดังนั้นก่อนทำการต่อเติม รีโนเวทควรปรึกษาทางนิติบุคคลของโครงการหมู่บ้านเสียก่อน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาภายหลัง

 

สงสัยเรื่องบ้านหรือคอนโดเอพี เข้าแอปได้เลย พร้อมไขทุกข้อสงสัย!

 

สำหรับลูกบ้านเอพีที่กำลังวางแผนอยากกู้เงินรีโนเวทบ้านหรือคอนโด มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการขออนุญาต หรือปัญหาภายในโครงการ แอปพลิเคชัน Smart World ได้เลย ตัวช่วยในการจัดการเรื่องบ้านครบวงจร ไม่ว่าจะการบริการตอบทุกปัญหาข้อสงสัยภายในที่อยู่อาศัย หรือข่าวสารอัปเดตจากทางโครงการ ทั้งยังมาพร้อมกับนวัตกรรม KATSAN ระบบแจ้งเตือนแขกผู้มาเยี่ยมได้อย่างสะดวกสบาย เปิดใช้ได้เฉพาะจากทางโครงการเท่านั้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ครบทุกประเด็นสงสัยได้ในแอปพลิเคชันเดียว

 

สำหรับใครที่อยากเริ่มต้นซื้อบ้านหรือคอนโดเป็นของตนเอง เอพี พร้อมเติมเต็มเป้าหมาย ชีวิตดี ๆ ในพื้นที่ความสุขที่เราเลือกเองได้ ไม่ว่าจะเป็นคอนโดมิเนียมทำเลติดรถไฟฟ้าเดินทางง่าย โครงการบ้านเดี่ยวพื้นที่กว้างขวางเป็นส่วนตัว ทาวน์โฮมหรือบ้านแฝดดีไซน์สวย และโฮมออฟฟิศฟังก์ชันเจ๋ง รองรับทุกธุรกิจ ก็เลือกให้ตอบโจทย์ได้เลย เพราะ “บ้าน” ไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย

 

EMPOWER LIVING อยู่ .. เพื่อทุกความหมายของคุณ

RELATED ARTICLES